วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

The XXX Project แรง ยั่ว มั่ว เซ็กส์ : มั่ว...KiHae BY: Little (NC)

บ้านเดิมจ้า http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=720914&chapter=19


มั่ว


Kim Kibum& Lee Donghae


          “คิดถึงเจ้าลูกหมาจังเลย~ เมื่อไหร่จะถึงวันงานซักทีนะ” ร่างบางนอนกลิ้งไปมาอยู่บนเตียงกว้างหลังจากนึกถึงใบหน้าคมของที่ก้าวเข้ามาจับจองพื้นที่ในหัวใจแค่ไม่ได้เห็นหน้าหล่อๆมาออดอ้อนเพียงไม่กี่วันก็รู้สึกเหงาแบบแปลกๆอย่างที่ไม่เคยเป็น
“จากวินาทีนี้ไป...ลมหายใจของผมจะเป็นของคุณ”
            เสียงทุ้มของประโยคสุดท้ายในซอกซอยเปลี่ยวแห่งนั้นยังคงเรียกรอยยิ้มให้แต้มบนใบหน้าหวานที่ไม่รู้สึกตัวเลยว่าตัวของเขาเองกับลังค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป..มันไม่ใช่คำว่ารักแต่คือสัญญาที่ร่างสูงนั้นให้ไว้ว่าจะอยู่เคียงข้างเขาตลอดไป

          ติ๊ดๆๆ...
            สัญญาณจากเครื่องอินเตอร์โฟนดังขึ้นบอกให้ดงแฮที่นอนคิดอะไรเพลินๆดึงตัวเองกลับมาหันกลับมาสนใจใครบางคนที่มายืนรอเขาอยู่ด้านนอก ขาเรียวสาวไปยังบานประตูก่อนจะเปิดมันออกแล้วส่งยิ้มละมุมให้กับเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่หน้าประตูแล้วดึงมือร่างอวบที่ใบหน้าซีดเซียวเข้ามาด้านในโอบไหล่พยุงไปยังโซฟาที่อยู่ด้านในของห้องนอน
            “ขอโทษที่มากวนนายนะ” ซองมินทิ้งตัวลงบนเบาะนุ่มหรูหราพลางถอนหายใจแสดงสีหน้าเหนื่อยอ่อนจนร่างบางรู้สึกเป็นห่วงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามไถ่
            “ไหวไหม?...” คำถามสั้นๆของดงแฮที่เอ่ยไปนั้นดูท่าคงจะเข้าไปสะกิดบางอย่างในใจของซองมินเข้าอย่างจัง
            “................”
            ไม่รอให้ซองมินตอบแค่มองดูก็รู้ว่าเพื่อนรักของเขาผ่านอะไรมาร่องรอยที่โผล่พ้นเนื้อผ้าและท่าเดินที่ผิดแปลกไปของซองมินตอนที่เขาพยุงเข้ามาก็พอจะเดาได้ว่าเพื่อนรักของเขาต้องเจอกับอะไรและคงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับร่างอวบนัก
            “สีหน้ามินนี่ไม่ดีเลยนะ นอนพักดีกว่ามั้ย? ถ้าไม่อยากกลับห้องจะอยู่ที่นี่ก็ได้นะเดี๋ยวด๊องจะอยู่เป็นเพื่อน...” ดงแฮเอ่ยอีกครั้งเมื่อเห็นว่าซองมินได้แน่นั่งเหม่อนิ่งไม่ยอมพูดจาและยังคงมีสีหน้าที่ครุ่นคิดอย่างหนักร่างบางจึงเงียบรอและไม่ซักไซ้อะไรอีกต่อไป
            “ดีขึ้นแล้ว...” รอยยิ้มเศร้าๆของเพื่อนรักที่ฉายออกมานั้นดงแฮทำได้เพียงแต่ส่งยิ้มตอบรับกลับไปหากซองมินไม่อยากที่จะเล่าเขาเองก็ไม่อยากจะบังคับ
            “งั้นรออยู่ตรงนี้แปปนะเดี๋ยวด๊องมา” ร่างบางลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วสาวเท้าเดินไปยังห้องโถงตรงผ่านไปที่เคาว์เตอร์บาร์หยิบบางสิ่งที่เขาคิดจะนำมาปลอบประโลมอารมณ์ของเพื่อนรักให้ดีขึ้นได้ติดมือกลับมาที่ห้องนอนอีกครั้ง
          แกร๊ก..
            ไวน์แดงชั้นเลิศที่ราคาแพงลิบลิ่วกับแก้วทรงสูงและที่เขี่ยบุหรี่ยี่ห้อหรูที่เขาได้เป็นของกำนัลจากผู้ชายที่มาติดพันถูกยกมาวางลงบนโต๊ะแก้วที่คั่นกลางระหว่างโซฟาทั้งสองด้านที่หันหน้าเข้าหากันก่อนที่ร่างบางจะหย่อนตัวนั่งข้างๆเพื่อนรักแทนฝั่งตรงข้ามแล้วรินไวน์แดงให้กับซองมินและตนเองก่อนจะใช้ขอบแก้วแตะกันเบาๆแล้วยกขึ้นกระดกมันลงคอดื่มทั้งแก้วรวดเดียว
            “หึๆ....” เสียงหัวเราะที่ฟังดูแล้วช่างขมขื่นของซองมินนั้นเหมือนกับเจ้าตัวกำลังมันตอกย้ำซ้ำเดิมตัวเองให้เจ็บปวดและน่าสมเพชยิ่งกว่าเดิมทำให้ร่างบางต้องชวนเพื่อนรักพูดคุยหักเหความสนใจไม่ให้ซองมินจมอยู่กับความคิดที่กำลังบั่นทอนและทำร้ายหัวใจตัวเอง
            “ไม่สบายเค้าให้ดื่มเหล้า...รับรองหาย” ดงแฮพูดติดตลกเอ่ยทฤษฎีมั่วๆออกมาเพื่อเรียกรอยยิ้มของคนที่นั่งซึมซึ่งอย่างน้อยมันก็ทำให้ซองมินหัวเราะออกมาเบาๆแม้จะยังเจือไปด้วยความเศร้าก็ตาม
            “ถ้าอยากเล่าเมื่อไหร่ก็พูดออกมาได้นะ ด๊องไม่เอาไปบอกใครหรอก ^^” เขาเองก็ไม่ใช่พวกที่พูดปลอบใจคนอื่นได้เก่งเท่าไหร่นักสิ่งที่ทำได้ก็คงมีแค่หาอะไรให้เพื่อนรักหรือพูดอะไรให้ซองมินสบายใจถึงจะทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้แต่อยากน้อยก็คงดีกว่านั่งเฉยๆแล้วปล่อยให้ร่างอวบนั่งเอาคำว่าความคิดมาใช้ทำร้ายตัวเอง
            เพราะเขารู้นิสัยของซองมินดี...รู้ว่าเพื่อนรักของเขาคนนี้เป็นพวกที่ชอบเก็บความเจ็บช้ำเอาไว้ข้างในเหมือนกับเขาเมื่อก่อน..ตอนนี้ยังเป็นเพียงแค่ลี ดงแฮผู้อ่อนแอและสิ้นหวัง
            “ขอบใจนะ...” เสียงของร่างอวบเอ่ยบางเบาก่อนที่เขาจะเห็นว่าว่าปรายนิ้วของซองมินนั้นแตะวนไปมาอยู่ที่ขอบของที่เขี่ยบุหรี่ราคาแพงแล้วเงยใบหน้าขึ้นมาสบตาเขาเพียงแค่นั้นดงแฮก็รู้แล้วว่าเพื่อนรักต้องการอะไรจึงเอียงคอส่งยิ้มหวานให้เป็นคำตอบว่าให้ซองมินตามสบาย
            ถ้ารสกุหลาบฟิชชี่ขอด้วยหนึ่งตัวนะฮะ คิกๆ ^^ใบหน้าหวานทำปากจู๋ใส่เพื่อนรักแล้วยกนิ้วขึ้นมาแตะๆถูกๆริมฝีปากของตนเองทำเอาซองมินหลุดขำส่ายหน้าให้กับท่าทางแอ๊บแบ๊วของแม่ปลาตัวร้ายที่พยายามทำท่าทางเลียนแบบนิสัยของเขายามทำงาน
ทั้งที่ตัวเขาคิดว่าเพื่อนรักที่กำลังล้วงมือเข้าไปในกางเกงนั้นคงดึงเอาบุหรี่รสที่เจ้าตัวชอบออกมาแต่สิ่งที่วางอยู่ตรงหน้าเขากลับเป็นห่อฟอยด์สีเงินที่ไม่ต้องเดาก็รู้ทันทีว่ามันคืออะไรแถมแม่กระต่ายอ้วนยังพูดอย่างหน้าชื่นมื่นว่า...
“เอาของฝาก ฮิๆ” เสียด้วย...
            “จุ๊ๆ ทำตัวเป็นเด็กไม่ดีอีกแล้วนะบันนี่” ดงแฮลุกขึ้นยืนกอดอกแล้วใช้นิ้วชี้ส่ายไปมาใส่หน้าของซองมินทำท่าหน้านิ่วแกล้งเอ็ดใส่เพื่อนรัก
            “วันนี้จะมาพาฟิชชี่เสียคนเป็นเพื่อนด้วน นั่งลงสิเร็วเข้าสิ!” ซองมินกระตุกชายเสื้อร่างบางให้นั่งลงตามเดิมเพื่อที่จะได้หาความสนุกกับสิ่งที่เขาเตรียมมาและอยากจะหาเพื่อนร่วมแชร์ความความหรรษานี้ด้วยกัน
            “บันนี่เนี่ยไม่ไหวเลย ชอบพาฟิชชี่ทำอะไรก็ไม่รู้อยู่เรื่อยนิสัยไม่ดีเลยนะ” ยังคงสวมบทเลียนแบบบุคลิกของเพื่อนรักทั้งที่ตอนนี้ตัวเองรีบเดินไปหยิบอุปกรณ์ลักษณะเป็นกระบอกยาวสูงสองชิ้นที่เก็บซ่อนเอาไว้ใต้เตียงและไม่ได้ใช้มานานออกมาปัดฝุ่นเพื่อใช้คู่กับสิ่งที่ร่างอวบเตรียมเฉพาะ
            “พี่มินนี่ทำให้ดูก่อนสิฮะ ฟิชชี่ไร้เดียงสานะทำอะไรแบบนี้ไม่เป็นหรอก ครั้งแรกเลยนะฮะเนี่ย~” มือบางถูกยกขึ้นมาวางใต้คางก่อนจะเอียงคอทำตาแบ๊วใส่เพื่อนรักที่นั่งหัวเราะสั่นกับท่าทางที่ราวกับถอดแบบตัวของเขายามทำงานออกมาจนเหมือนมีตัวเองอีกคนมานั่งอยู่ด้วยกัน
            “งั้นคอยดูละกันเดี๋ยวพี่จะสอนให้เองนะน้องรัก^^  ร่างอวบกางแผ่นฟอยด์ออกแล้วใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งหนีบเศษผงสีขาวใส่ลงในกระบอกที่กลางลำถูกเจาะเพื่อใส่ท่อเล็กให้ยื่นออกมาแล้วใช้ไฟแช็คที่พกติดตัวจุดเข้าที่ใบสีเขียวคล้ำที่แห้งกรอบที่ถูกฉีกออกเป็นชิ้นเล็กๆก่อนจะโยนมันลงไปในกระบอกเดียวกันกับเมื่อซักครู่แล้วจัดการปิดฝาให้สนิทเพื่อให้มันถูกเผาไปพร้อมกับผงที่นอนรออยู่ที่ก้นตูดแล้วส่งมันให้กับดงแฮที่ยื่นมือมารอรับอย่างรวดเร็ว
            “แหม~อะไรกันเอ่ยฟิชชี่ไม่รู้เลย อยากลองซะแล้วสิ คิกๆ^^
            “อัดมันเข้าไปเลยน้องรักอย่าชักช้า”
            ซื๊ด.....
            ริมฝีปากเล็กทั้งสองครอบไปยังท่อที่ยื่นออกมาก่อนจะสูดเอาควันที่เริ่มลอยออกจากส่วนปรายจางๆเข้าไปเต็มปอดแล้วพ่นมันสู่ชั้นบรรยากาศครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนที่ดงแฮจะเอ่ยชวนร่างอวบให้ลองบางสิ่งที่ตนเก็บเอาไว้มานานแต่ยังไม่ได้ใช้มันเสียที
            “ลองนี่ดู...” มือบางโยนมันขึ้นให้อีกฝ่ายที่นั่งมองได้เห็นว่ามันคืออะไรก่อนจะใช้มือตวัดรับมันไว้แล้วจัดการใช้มันทันที
            ชี๊บ...~’
            มือบางบีบของเหลวใสที่เหนียวหนืดลงไปบนโต๊ะแก้ว ใช้ปรายนิ้วเกลี่ยให้มันเป็นวงกว้างก่อนจะส่งหลอดพลาสติกเล็กๆให้ซองมินแล้วสาธิตวิธีลิ้มลองให้ร่างอวบดูเป็นตัวอย่างซึ่งมันก็ไม่ได้ต่างอะไรมากนักกับสิ่งที่ทำเมื่อสักครู่แค่สูดมันเข้าไปคนละทาง
            “ยกมันเหนือพื้นนิดนึงแล้วสูดมันขึ้นไปแบบนี้นะ” ปรายจมูกของร่างบางแตะเข้าที่ต้นหลอดแล้วสูดเอาสิ่งที่กำลังระเหยขึ้นมาเข้าไปในร่างกายซึ่งซองมินเองก็ทำตามที่เพื่อนรักแนะนำและมันก็ทำให้เขายิ่งเพลิดเพลินมากขึ้นกว่าเก่าเพราะเจ้านี่มันให้ความรู้สึกดีทีเดียวยิ่งสูดยิ่งรู้สึกว่าร่างกายมันเย็นวูบวาบและไม่นานก็ร้อนรุมจนอยากจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าที่สวมใส่ทิ้งไปเสีย
            เวลาอัพยาแบบนี้กับพวกคอเดียวกันมันทั้งสนุกและมีแต่ของที่ถึงใจ หรรษาเสียจนเลิกไม่ได้เลยจริงๆ!
            “ไม่ได้เล่นแบบนี้นานแล้วเหมือนกันนะรู้สึกดีชะมัดเลย อาห์~” ตาสวยปรือฉ่ำล่องลอยตอนนี้สติของดงแฮถูกสารพัดสิ่งเสพติดที่วางกองเกลื่อนกลาดอยู่บนโต๊ะเล่นงานจนมันเริ่มลดน้อยลงก็คงไม่ต่างอะไรกับซองมินที่กำลังนอนบิดตัวไปมาอยู่บนข้างๆเขาในตอนนี้
            “ร้อนจังเลยด๊อง ครั่นเนื้อครั่นตัวไปหมดแล้ว...” ดวงตากลมไร้จุดโฟกัสปากเรียวเล็กเพ้อออกมาเป็นระยะก่อนจะชันตัวเคลื่อนเข้าหาร่างบางแล้วดึงเพื่อนรักเข้ามาจูบบดเบียดสอดลิ้นกันรุกไล่กันอย่างร้อนแรง
            “อื้อ~~” สองเสียงหวานประสานครางในลำคอมือสองคู่สี่ข้างของคนทั้งสองผลัดกันลูบไล้กายอีกฝ่ายไปมาท่ามกลางควันสีหม่นที่ลอยคละคลุ้งเต็มห้องกว้างและกำลังพรากเอาคำว่าสติออกไปจากคนทั้งคู่
            ดงแฮผละริมฝีปากออกก่อนจะไล่ไซ้ซอกคอของเพื่อนรักที่ล้วงมือเข้ามาบดบี้ยอดอกของเขาสองร่างที่โดนฤทธิ์ยาเข้าครอบงำเบียดเสียดสีร่างกายนัวเนียคลอเคลียกันเองเพื่อระบายความร้อนรุ่มโดยที่ไม่รู้ว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าผู้ที่ไม่ได้รับเชิญอีกสองชีวิตที่อยู่ด้านล่างของตึกนั้นจะเข้ามาพบกันสภาพที่แทบจะได้เสียของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนรักกันช
            และทำให้ดงแฮต้องสูญเสียสิ่งสำคัญ...คนสำคัญที่เขาไม่อยากให้จากเขาไป

            “มึงมันเหี้ย”  ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าไอ้เพื่อนรักเพื่อนเลวที่ทำอะไรไม่รู้จักคิดอย่างคยูฮยอนที่ขับรถทำหน้าบูดหน้าบึ้งเหมือนชีวิตนี้มีแต่ปัญหารุมเร้า ปกติเขาเองก็ไม่ชอบด่าชอบว่าใครเพราะมันไม่ใช่นิสัยแต่ครั้งนี้ต้องขอซักทีเพราะไอ้นิสัยเสียๆที่แก้ไม่หายของเพื่อนสนิทที่เอาหน้ามาให้เขาด่าถึงที่
            “กูรู้แล้วมึงไม่ต้องย้ำมากก็ได้”
            “จีบยังไงของมึงปล้ำตั้งแต่ทีแรก แถมมึงยังไปฝืนใจเขาแบบนั้นอีกอย่างนี้เขาเรื่องว่าข่มขืนชัดๆให้ตายเถอะ” รู้ว่ามันเป็นพวกเอาแต่ใจสันดานเสียมาแต่ไหนแต่ไรตามนิสัยที่ถูกเลี้ยงมาอย่างเอาอกเอาใจของที่บ้าน  ถึงหลายต่อหลายครั้งมันจะทำเรื่องร้ายๆไปก่อเหตุใส่ชาวบ้านแต่ตัวเขาก็ไม่เคยด่ามันซักครั้งเพราะพูดไปก็เท่านั้นคนอย่างไอ้คยูฮยอนมันเคยสำนึกอะไรที่ไหนกันว่ามันเป็นคนผิด..
            “นี่กูชวนมึงมาเป็นเพื่อนนะครับไอ้คิบอม มึงด่ากูตั้งแต่ออกจากบ้านยันจะถึงแพลตตินั่มแล้วนะครับ! นี่ตั้งแต่มึงได้กับยัยโหดซาดิสต์ดูมึงจะปากมากขึ้นโขเลยนะ” ให้ตายเหอะมันนั่งด่าเขามาทั้งวันตั้งแต่เขาเผลอปริปากบอกเรื่องที่ตัวเองไปทำอะไรแม่บันนี่ดาวอีกคนของแพลตตินั่มพอมันรู้เรื่องนี่ก็ด่ายับเหมือนตัวเขาไปข่มขืนเมียมันยังไงยังงั้น
            “ที่กูด่าเพราะกูเห็นว่ามึงยังมีสามัญสำนึกความเป็นคนอยู่บ้างไงไอ้เพื่อนเวร ที่ผ่านมาเวลามึงไปทำตัวเลวนี่เคยเห็นกูด่ามึงมั้ยครับ?”
            “เออ! กูรู้แล้วเลิกด่ากูซักทีนี่กูก็จะไปขอโทษเขาอยู่นี่ไง! 
            “มึงรู้สึกตัวช้าไปมั้ยครับไอ้คุณเพื่อน? นี่มันผ่านมากี่วันแล้วมึงเพิ่งคิดได้ว่าต้องไปขอโทษเขา มึงนี่โคตรเลวเลย! มึงรีบขับเลยจะเหยียบให้มิดกูก็ไม่ด่ามึงหรอกถ้าเกิดเขาใจเสาะฆ่าตัวตายขึ้นมามึงได้รู้สึกผิดไปตลอดชาติแน่ครับไอ้คยูฮยอน !!
            “มึงอย่าพูดให้กูใจเสียได้มั้ยวะ!! บั่นทอนกูจริง!!” คิดถูกรึเปล่าวะกูที่ไปเล่าให้มันฟังแม่ง ด่าจนหูกูแทบดับแต่ละคำที่มึงด่านี่เหมือนกูถูกมีดแทงจนตอนนี้ตัวกูพรุนไปแล้วไอ้เพื่อนทรพี
            “แล้วมึงทิ้งเขาไว้อย่างนั้นน่ะนะ?” คิบอมเอ่ยถามโดยที่หันหน้าไปมองวิวข้างทางเพราะไม่อยากมองหน้าไอ้คยูฮยอนเลยตอนนี้เห็นแล้วโคตรหงุดหงิดทำเอาคนถูกถามชะงักค้างนึกถึงเหตุการณ์ที่เขาทำร้ายร่างอวบเสียจนยับเยิน
“กูพาเขาไปนอนแล้วออกมา...”
            “พูดเหมือนจะดูดีแต่แม่งก็คือฟันแล้วทิ้งนั่นแหละไอ้คยู...” ไม่มีเสียงตอบกลับมาเหมือนอย่างเคยทุกอย่างที่เพื่อนรักพูดนั้นมันถูกต้อง คยูฮยอนได้แต่เหยียบคันเร่งเพื่อมุ่งหน้าไปหาคนที่เขาย่ำยี

            “มึงว่าเขาจะให้อภัยกูมั้ย?...”
ประโยคแรกที่หลุดออกจากเพื่อนรักทันทีที่ก้าวเข้ามายังด้านในของตึกแพลตตินั่มหลังจากที่มันเอาพี่คังอินมาอ้างพร้อมเหตุผลที่เขาคิดว่ามันคงด้นสดไม่มีการคิดอะไรล่วงหน้ากับพนักงานฝึกหัดที่เข้ามาขวางพวกเขาไม่ยอมให้ผ่านเข้ามาในตอนแรกเพราะมันยังไม่ถึงเวลาที่ทาง X- Club จะเปิดให้บริการ
“กูตอบมึงแทนเจ้าไม่ได้หรอกครับไอ้คยู มึงต้องไปถามเขาเอาเอง” คิบอมตอบเสียงเรียบนิ่ง มันพูดไม่ได้หรอกเรื่องแบบนี้เพราะความรู้สึกของคนเรามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเกินกว่าจะมาตอบแทนเจ้าตัวได้ มือหนาตบเบาๆเข้าที่ไหล่ของเพื่อนรักเพื่อให้กำลังใจเพราะเขาเองก็คงช่วยอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ใครก่อคนนั้นต้องแก้ ถึงคยูฮยอนมันจะมุทะลุยังไงแต่ก็ไม่ใช่คนเลวร้ายไร้สำนึกไปซะทีเดียวที่มันเป็นแบบนี้ก็ด้วยนิสัยที่ยังไม่ยอมโตของมันด้วยนั่นล่ะ
สองหนุ่มก้าวเข้าไปในตัวลิฟต์ที่ประตูเปิดอ้าออกก่อนที่นิ้วของคยูฮยอนที่ตั้งท่าจะกดตัวเลขระบุชั้นขนแผงเหล็กต้องชะงักค้างเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเขาไม่รู้ว่าบันนี่นั้นอยู่ชั้นไหนเพราะตอนที่มาที่นี่ก็มีคนนำทางให้แถมขากลับออกมาจากห้องของบันนี่เขาก็ไม่ได้สนใจด้วยว่ามันอยู่ส่วนไหนชั้นไหนของตึก
            “มึงไปหาบันนี่เป็นเพื่อนกูก่อนนะ..มึงรู้มั้ยว่าเขาอยู่ชั้นไหน”
            “ทำไมกูต้องไปเป็นเพื่อนมึง? คนที่ต้องไปขอโทษเขาคือมึงไม่ใช่กูนะครับ” จะมาขอโทษเขามึงยังไม่รู้นี่มึงปล้ำเขาเสร็จก็หลับหูหลับตาเดินออกมาเลยรึไงวะ?
            “กู...ไม่กล้าไปเจอเขาคนเดียว...”
            “ที่ไอ้เรื่องที่สมควรทำมึงไม่กล้าที่เรื่องหมาๆมึงลุยไปตายเอาดาบหน้าตลอด ที่ตอนมึงข่มขืนเขามึงยังหน้าด้านทำแล้วทีตอนนี้มาทำใจเสาะ ไอ้คุณชายสันดานเสีย!
            “เออ! จะด่าอะไรก็ด่ามาเลยแต่ไปเพื่อนกูก่อนมึงแค่ยืนเฉยๆก็ได้เดี๋ยวกูเคลียร์เรื่องของกูเอง”  
            “ไม่! ไปชั้นกูก่อน!  มึงรู้เหรอบันนี่อยู่ชั้นไหน ไหนมึงบอกมึงไม่รู้ไงแต่กูรู้ว่าฟิชชี่อยู่ชั้นไหน เพราะงั้นไปชั้น 9 ก่อน” เห็นนิ้วมันยกค้างไม่กดปุ่มสักทีคิบอมเลยจัดการกดชั้นที่ต้องไม่สนใจเสียงบ่นของไอ้เพื่อนรักที่พึมพำตลอดทาง
            “แล้วมึงนัดฟิชชี่ไว้รึไง?”
            “เปล่า...กูกะมาเซอไพรซ์...” เจริญ! มึงพากูมาตายรึเปล่าวะไอ้คิบอม เกิดแม่สวยโหดของมึงไม่พอใจที่อยู่ๆก็พากันโผล่มาโมโหเลือดขึ้นหน้าจับกูรัดคอแบบไอ้อ้วนที่โดนในงานปาร์ตี้คราวก่อนจนลงไปชักตาเหลือกกับพื้นกูจะโทษมึงที่ทำให้กูไม่ได้ไปขอโทษบันนี่คอยดู!
            “มึงอย่าพูดเหมือนฟิชชี่เป็นพวกโรคจิตได้มั้ยวะ? กูไม่ชอบ..”
            “ไม่เหมือนแต่มันใช่เลยล่ะครับไอ้คุณคิบอม มึงมันก็พอกันนั่นล่ะ!” ขอด่ามันคืนบ้างแล้วกันคบกันมาตั้งหลายปีมันปิดเรื่องที่เป็นพวกแอบจิตซะเนียนสนิท เพิ่งจะรู้ก็วันนี้ที่ไปรับมันที่บ้านแล้วเห็นแผลตามตัวมันนั่นล่ะพอถามว่าไปทำอะไรมามันก็ยิ้มหน้าบานตอบแบบโคตรภูมิใจว่าโดนยัยสวยโหดนั่นจับขึงพรืดแถมถูกใจมันสุดๆ...เพื่อนผมแม่งโคตรร้ายแรง!!

เก๊าะๆ...
            สองหนุ่มหยุดยืนอยู่หน้าบานประตูสีทองก่อนที่คิบอมจะใช้หลังมือเคาะลงไปเมื่อกดอินเตอร์โฟนหลายครั้งแต่ไม่มีปฏิกิริยาของคนด้านในทั้งที่คิดว่าเจ้าตัวคงไม่น่าจะออกไปไหนตอบกลับมาหรือดงแฮจะอยู่ในห้องลับ
            “เคาะไม่ตอบก็พังแม่งเข้าไปป่ะ...” คิบอมเหล่หางตาใส่เพื่อนรักแทนการด่าเป็นคำพูดนี่มึงเอาอะไรคิด ? ประตูมหึมาขนาดนี้เอาผู้ชายมาวิ่งชนสิบคนแม่งไม่สะเทือนเลยไอ้ห่า...ฉลาดไม่ถูกเรื่องจริงๆ
แกร๊ก..
ตาคมดึงกลับมาสนใจที่ประตูอีกครั้งก่อนจะลองเอื้อมมือไปจับที่ลูกบิดประตูแล้วขยับมันเบาๆก็พบว่ามันไม่ได้ล๊อคไว้จึงขมวดคิ้วน้อยๆ  ถือวิสาสะดันมันให้เปิดออกแล้วเดินเข้าไปด้านในปล่อยให้ทำหน้าเบื่อโลกเดินตามหลังมาติดๆเพราะดูชีวิตของไอ้เพื่อนรักมันจะราบรื่นไปหมดแต่ดูแล้วสิ่งที่คยูฮยอนคิดนั้นมันผิดถนัดเมื่อจมูกที่ค่อยข้างดีกว่าชาวบ้านได้กลิ่นบางอย่างที่ทำให้เขาสังหรณ์ใจพิกลตามมาด้วยเสียงที่คุ้นหูของใครบางคนที่ดังแววมาไม่ไกล
“คิกๆ....อ๊ะ แบบนั้นล่ะ อ๊า~
“แบบนี้เหรอ? ฮิๆ~” เสียงหวานส่งเสียงหัวเราะมาพร้อมกับเสียงคราง คิบอมรู้ทันทีว่าหนึ่งในนั้นเป็นเสียงของดงแฮและอีกเสียงที่เขาไม่คุ้นหูเลยแม้แต่น้อย สองหนุ่มหยุดฝีเท้าก่อนจะหันมองหน้ากันเพราะมันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีตั้งแต่เข้ามาเห็นควันของอะไรบางอย่างที่ลอยอยู่เต็มห้องราวกับหมอกลงแบบนี้
“ทางนี้ไอ้คิบอม!” คยูฮยอนเมื่อมั่นใจว่าไอ้กลิ่นนี้มันคืออะไรรีบลากเพื่อนรักเดินตรงไปยังต้นทางปล่อยที่กลิ่นฉุนและดวงตาสองคู่ของชายหนุ่มก็สะท้อนภาพของคนสองคนที่กำลังกอดจูบลูบคล้ำกันอย่างสนุกสนาน สองดาวแห่งแพลตตินั่ม บันนี่และฟิชชี่กำลังเล้าโลมกันเอง!
            “...อืม...อือออ...อะ..เสียวจัง~” เสียงของใบหน้าที่หวานไม่แพ้กับดงแฮครางฮือ เมื่อร่างบางก้มลงใช้ลิ้นเลียบนยอดอกที่แอ่นเชิดขึ้นเพราะความเสียวซ่านส่ายหน้าออกบิดไปมาเมื่อถูกมือบางเค้นคลึง...ซองมินกำลังปล่อยให้ดงแฮเล่นสนุกกับร่างกายของเขาเองด้วยความเต็มใจ
“บันนี่ขี้โกงนี่~ให้ฟิชชี่ทำอยู่คนเดียวเลย...” ร่างเหงยหน้ามองเพื่อนรักที่กำลังเคลิ้มไปกับการปลุกเร้าที่ตนทำก่อนตัดพ้ออย่างน้อยอกน้อยใจ เขาเองก็อยากเป็นฝ่ายถูกลูบไล้บ้าง อยากเสียวบ้าง...ให้เล้าโลมน่ะทำแต่แต่ถ้าให้เป็นฝ่ายรุกกระแทกใครนี่มันไม่ใช่แนว
นี่มันอะไรกัน!!!!!’
ยิ่งเห็นดงแฮทำแบบนั้นคิบอมยิ่งรู้สึกเหมือนถูกค้อนใหญ่ทุบเข้าที่หัวอย่างจังใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มก่อนที่จะเข้ามาในห้องนี้นั้นเปลี่ยนเป็นตึงเครียดทันทีเมื่อความหึงหวงและความโกธรกำลังเข้าครอบงำ
“...อื้มมม...ไหนๆบันนี่ก็ชอบชวนฟิชชี่ทำอะไรแปลกๆบ่อยๆ...คราวนี้ฟิชชี่จะชวนบันนี่บ้างนะ...คิคิ”  ร่างปากผละตัวออกจากเพื่อนสนิทก่อนจะเป็นฝ่ายนอนทอดกายให้ซองมินเล้าโลมตนเองกลับคืนโอบโน้มเพื่อนรักลงมาแลกลิ้นบดบิดเรียวปากกันและกันก่อนที่ร่างอวบจะก้มลงดูดเม้นยอดปทุมอมชมพูของดงแฮที่ตั้งชันเพราะตัวเขากำลังอารมณ์ที่เตลิดจนกู่ไม่กลับ

มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งยามที่เขาได้อัพยา ฤทธิ์ของมันพาร่างกายให้เกิดความต้องการและไม่มีสติที่จะยับยั้งชั่งใจอยากที่จะมีเซ็กส์กับคนที่อยู่ใกล้ๆหากมีคนที่นั่งอยู่ด้วยกัน ณ ตอนนั้นแม้จะเพื่อนหรือคนรู้จักยามที่เสียการควบคุมตัวเองเขาก็ไม่อาจแยกแยะหรือหักห้ามใจดงแฮจึงเลิกที่จะข้องแวะกับมันมาได้พักใหญ่เพราะเขากลัวว่าซักวันคงได้เสียความบริสุทธิ์ไปแบบไม่รู้ตัวซึ่งเขาไม่อยากให้เป็นแบบนั้น
“ฉันอึดอัดจัง ~ มันปวดไปหมดแล้ว” มือบางล้วงลงไปลูบคลำแก่นกายของตนเองที่เริ่มขยับขยายไม่ต่างกับซองมินเองที่ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน สองกายเคลื่อนเข้าหาแทรกตัวเข้ากลางหว่างขาออกอีกฝ่ายช้าๆ
“อื้ออ โอย...อาห์...อึ้ก...มา..สิ ชั้นช่วย..นะ...” เสียงสั่นๆของเพื่อนรักเอ่ยขึ้นก่อนที่ต่างฝ่ายต่างใช้มือของตัวเองปรนเปรอส่วนอ่อนไหวให้กันและกันจนเสียงครางทั้งสองดังลั่นระงมก้องไปทั่วทั้งห้องกว้างยิ่งกระตุ้นไฟโทสะของสองร่างที่ยืนมองฉากคลอเคลียของทั้งสองให้ลุกโหมโดยเฉพาะใบหน้าคมจับจ้องฉากสวาทที่ร่างบางของเขากำลังเป็นฝ่ายดึงอีกคนเข้ามาแลกจูบดูดดื่มส่งเสียงคิกคักถูกอกถูกใจ
จ๊วบ..
“คิกๆ ซองมินก็จูบเก่งเหมือนกันน้า~เหมือนเจ้าลูกหมาของฉันเลย อาห์~” สะโพกมนขยับเขยื้อนไปตามจังหวะมือ ดวงตาหวานฉ่ำปรือมองล่องลอยเพราะฤทธิ์ยาจนไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนที่กำลังยืนมองอยู่ไม่ไกล 
“ทำอะไรกันน่ะ!!
เจ้าของแววตาสีนิลคมกร้าวตะเบ็งเสียงดังสนั่นและเยือกเย็นจนคยูฮยอนยังรู้สึกผวาขนาดคบกันมานานยังไม่เคยเห็นมันเดือดดาลขนาดนี้เลยสักครั้ง ทั้งที่มันดังก้องกังวานจนถูกสะท้อนกลับมาแต่ดงแฮก็ยังคงไม่หยุดมือที่ลูบไล้แก่นกายของซองมินผิดกับใบหน้ากลมที่กำลังหันมองมาทางเขาแล้วขมวดคิ้วบางๆ ราวกับอยากจะถามว่าเขาเป็นใคร..
 “อ้าว? คิบอมเหรอ? อย่าเสียงดังสิไม่เห็นรึไงว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ คิกๆ ^^” คนที่ยังไม่มีสติยังคงรื่นระเริงกับสิ่งทำ ดงแฮรู้สึกว่าภาพตรงหน้าและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเหมือนอยู่ในความฝันคิดว่าร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขานั้นเป็นเพียงแค่ภาพหลอนที่เกิดจากความคิดถึง
“มานี่สิคิบอม ~ มาสนุกด้วยกันมั้ย?..” ตาหวานที่ล่องลอยปรายมองไปยังคนที่ยืนหน้าเคร่งเครียดก่อนจะดึงมันกลับไปสนใจเรือนร่างของเพื่อนรักตามเดิม
“หยุดเดี๋ยวนี้นะดงแฮ!
“บอกแล้วไงว่าอย่าเสียงดัง ถ้าไม่อยากก็ยืนดูอยู่ตรงนั้นแหละอย่าเห่าเรี่ยราดให้มันน่ารำคาญไม่งั้นฉันจะเอานายไปทิ้งซะ...”  ใบหน้าของคิบอมรู้สึกชาวาบเจ็บอีกกว่าเคยถูกคนสวยโหดตบจนเป็นแผลเพราะคำพูดของคนที่เอ่ยมันออกมาราวกับเขาเป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยงจริงๆไม่ได้มีอะไรมากมายหรือพิเศษไปกว่าใครทิ้งอย่างนั้นเหรอ
“ยะ หยุดก่อนดงแฮ...”
“อื้ม~ไม่เอาฉันอยากแล้วนี่เอากันเถอะนะบันนี่ ฟิชชี่ยอมอยู่ข้างล่างให้ก่อนก็ได้” เสียงหวานเอ่ยเพ้ออย่างไม่รู้ตัวหรือจะเรียกว่าแม้จะมีสติแต่ก็เลือนรางเต็มทีก็คงได้ มือบางคว้ามือเพื่อนสนิทมาทาบลงบนสะโพกกลมของตัวเองช้อนสายตาปรือเยิ้มใส่เพื่อนรักยั่วยวนให้อีกฝ่ายยอมทำตามคำขอ
พอกันที! หากปล่อยไว้มันคงได้ไปไกลมากกว่านี้!
ร่างสูงตรงเข้ากระชากดงแฮออกจากตัวของซองมินที่ถูกคยูฮยอนลากให้ออกห่างจากร่างบางพร้อมๆกันก่อนจะคร่อมทับคนที่ดิ้นพล่านเหวี่ยงมือทั้งตบทั้งตีเขาเพราะถูกขัดใจ
ตึง!’
“โอ๊ย! ทำบ้าอะไรน่ะมันเจ็บนะ!!
“ลุกออกไปซะ! ฉันบอกให้ลุกออกไปไม่ได้ยินรึไงคิบอม มันจะมากไปแล้วนะ!!” ใบหน้าหวานกราดเกรี้ยวเมื่อถูกคนในปกครองผลักลงไปนอนกับโซฟาอย่างแรงจนหัวเขากระแทกเข้ากับขอบพนักที่วางมืออย่างจัง
“ไม่!!!
“ฉันบอกให้ลุกออกไปไง อยากตายรึไงห๊ะ!!!!” สติของดงแฮเริ่มกลับมาเมื่อความเจ็บที่ศีรษะมันเล่นงานดีดเอาความมึนเมาจากฤทธิ์ยาให้ค่อยๆกระเด็นหายไป ถึงจะยังไม่เต็มที่แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าภาพของเจ้าลูกหมาที่ยืนทำหน้าตึงที่เขาเห็นก่อนหน้านี้นั้นมันไม่ใช่ความฝัน
“ทำไมถึงทำแบบนี้!! คุณไปให้คนอื่นสัมผัสแบบนั้นได้ยังไง ผมไม่ชอบ!! อย่าทำแบบนั้นอีกแล้วก็ห้ามเล่นยาด้วย!!” มือใหญ่วางทาบทับจับขึงข้อมือบางทั้งสองข้างแล้วออกแรงบีบมันจนดงแฮเบ้หน้าเด้วยความเจ็บทั้งที่ตัวเองเป็นคนที่มีเรี่ยวแรงมากกว่าคนทั่วไปแต่ตอนนี้แม้แต่จะสะบัดข้อมือให้หลุดออกจากการเกาะกุมของคิบอมก็ยังทำไม่ได้
“แล้วทำไมฉันจะทำไม่ได้!! นายมีสิทธิ์อะไรมาห้ามฉันคิม คิบอม! นายเป็นแค่สัตว์เลี้ยงเท่านั้นลืมไปแล้วรึไง!!” คำพูดของดงแฮเหมือนเชื้อเพลิงที่สุมไฟแห่งโทสะในใจของคิบอมให้ลุกโชนจนยากที่จะดับ แววตาสีนิลดำสนิทมองใบหน้าหวานที่ส่งเสียงโวยวายอย่างเกรี้ยวกราดยิ่งร่างบางพูดเหมือนเขาเป็นอะไรที่ไม่สำคัญต่อตนเองเลยซักนิดก็ยิ่งหงุดหงิดหัวใจตอนนี้เขาไม่สนเสียงโวยวายของคู่กรณีอีกคนที่ถูกคยูฮยอนลากไปเหวี่ยงลงเตียงกว้างที่อยู่ใกล้ๆ ณ เวลานี้ความโกธรความน้อยใจมันทำให้หูตาอื้ออึงจนไม่เห็นไม่ได้ยินอะไรนอกจากคำกรนและใบหน้าหวานแสดงสีหน้าที่กำลังเดือดดาลไม่แพ้กัน
“เจ็บนะเว้ย! บอกให้ปล่อยไงถ้าฉันหลุดไปได้ฉันเอาแกตายแน่คิม คิบอม!!” ดงแฮที่พอจะจำได้ลางๆว่าก่อนหน้านี้ตัวเองทำอะไรหัวฟัดหัวเหวี่ยงกับสิ่งที่คิบอมทำกับเขาเพราะไม่เคยมีใครกล้ามาตวาดใส่หน้าเขาแบบนี้และไม่มีใครกล้าหือกับเขาแบบนี้ด้วยซ้ำแต่นี่สัตว์เลี้ยงที่เขาคิดว่าเชื่องและเชื่อฟังที่สุดกำลังฉีกหน้าเขาต่อหน้าเพื่อนสนิทและใครอีกคน
“เจ็บงั้นเหรอ? ผมสิที่ต้องพูดคำนั้น!!” ตอนนี้ใจของเขาต่างหากที่เจ็บราวกับถูกแทงด้วยหอกแหลมทั้งที่ไม่อยากจะโกธรแต่ภาพที่ดงแฮไปเคล้าคลอลูบไล้กับคนอื่นไม่อยากทำตัวน้อยใจงี่เง่ากับเรื่องบ้าๆรู้ว่าเป็นเพราะยาดงแฮถึงได้ทำแบบนั้น
ฉันสัญญาว่าคนที่ได้สัมผัสฉันจะมีแค่นายคนเดียว..คิม คิบอมพ่อหมาน้อยที่น่ารักของฉัน..  แต่ทั้งที่เคยสัญญาว่าจะไม่ให้ใครแตะต้องร่างกายนี้อีกนอกจากเขาถึงสมองจะรับรู้ว่าร่างบางไม่มีสติแต่..เขาหึง เขาหวง ไม่อยากให้ใครมาแตะต้อง!!
..ตุบ!..’
ตาคมปรายมองร่างของอีกหนึ่งหวานที่ถูกคยูฮยอนเหวี่ยงเข้ากับโซฟาฝั่งตรงข้าม สายตาของเพื่อนที่มองมานั้นเหมือนกำลังบอกให้รู้ว่าอยากให้เขาทำอะไรมือหนาจึงรวบข้อมือของทั้งสองข้างคนร่างบางไว้เหนือหัวแล้วก้มลงซุกไซ้คนใต้ร่างต่อหน้าต่อตาอีกสองชีวิตที่อยู่ไม่ห่างกัน ตาสวยเบิกกว้างเมื่อถูกสัตว์เลี้ยงแว้งกัดด้วยการเล้าโลมเขาต่อหน้าเพื่อนรัก ปากเรียวที่พ่นคำด่าทอถูกปิดผนึกด้วยจูบที่เต็มไปด้วยโทสะของคนที่กำลังสอดมือเข้ามือบดบีบตุ่มไตทั้งสองและบดบี้มันอย่างรุนแรง
นี่เขากำลังโดนคิบอมเล่นงานทั้งต่อหน้าต่อตาซองมินที่ส่งเสียงร้องน้ำตานองเต็มใบหน้าเพราะกำลังตกอยู่ในสภาพเดียวกัน
            ร่างสูงปลุกปล้ำถอดเสื้อของร่างบางออกให้พ้นทางแล้วตะบบมือเข้าที่แกนกลางลำตัวของร่างบางที่ตั้งชันจนดงแฮต้องร้องออกมาเพราะถูกมือหนาบีบรัดจนปวดเสียด
            “โอ๊ย! หยุดนะคิบอม ฉันเจ็บ!! ฮึก!
            “มันเสี้ยนมากใช่มั้ยครับฟิชชี่...อยากมากจนถึงขนาดต้องไประบายกับเพื่อนตัวเองแบบนั้นน่ะ!
            “ใช่!! มันเรื่องของฉันนายเป็นแค่เลี้ยงไม่มีสิทธิ์มาทำกับฉันแบบนี้ เป็นแค่หมาก็ทำตัวให้สมกับเป็นหมาอย่าสะเออะทำเกินหน้าที่!!
          แปลบ....
            หัวใจของคิบอมเหมือนถูกมีดแทงซ้ำ ถึงแม้จะเคยถูกร่างบางเรียกเป็นสัตว์เลี้ยงแต่ไม่รู้สึกน้อยใจเท่ากับในคราวนี้ ทั้งที่เขาไม่อยากจะทำร้ายหักหาญน้ำใจของดงแฮคนที่เขารักแม้แต่จะคิดเขาก็ไม่เคยเลยสักครั้ง แต่คนที่เขาให้ความสำคัญกลับไม่เคยแคร์ความรู้สึกของเขาเลยแม้แต่น้อยหรือการที่เขาได้อยู่ใกล้ชิดร่างบางมันจะเป็นเพียงแค่ความหลงใหลที่ดงแฮมีให้เพียงชั่วคราวเท่านั้น
            “งั้นหมาตัวนี้จะสอนให้เจ้านายมันรู้ว่าเวลามันโมโหก็กัดมือเจ้าของของมันได้เหมือนกัน”
            “อะ โอ๊ย...อึก! ยะ....อื้อ หยุดนะ!! อ๊าาาา~” อาจจะเป็นเพราะพิษของยาที่ยังคงหลงเหลือมันเลยเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาหลุดจากพันธนาการของร่างสูงไม่ได้ ร่างบางกระตุกเกร็งเมื่อช่วงขาถูกแทรกกลางด้วยเข่าของผู้ชายที่เชื่อฟังตนเองมาโดยตลอดและมือหนาที่ชักรูดแก่นกายของเขาอย่างรุนแรงไร้ความอ่อนโยนเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
ดวงตาสวยเหลือบมองเพื่อนรักที่จ้องมองหน้าขึ้นสีมาทางเขาและถูกร่างสูงที่เขาไม่รู้จักรังแกจนมีน้ำตาเห็นแบบนั้นก็อยากที่จะลุกขึ้นไปช่วยแต่ตอนนี้แม้แต่ตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเขาไม่ได้เขินอายที่กำลังต้องเล่นหนังสดให้เพื่อนดูแต่มันรู้สึกเสียศักดิ์ศรีเพราะโดนคนในปกครองลุกขึ้นมาต่อต้านและปวดแปลบที่หัวใจกับการกระทำของคิบอมที่กำลังฉีกหน้าเขา แม้จะกำลังปรนเปรอร่างกายแต่กลับไร้ความอบอุ่นเหมือนที่ผ่านมามีแต่เพียงความเย็นชาและสัมผัสที่ไร้ความรู้สึกรักจนเขาไม่อยากให้แตะต้องแต่ร่างกายกลับอ่อนเปลี้ยขัดขืนไม่ได้
          เพราะหัวใจมันสั่งยอม...ดงแฮรู้สึกเพียงเท่านั้น ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนโดนร่างสูงหักหาญความเชื่อใจที่เขามีให้จนหมดสิ้น...คนที่เขามั่นใจว่าจะไม่มีวันทำร้ายเขากลับกำลังทำให้เขาจมลงกับความรู้สึกมืดมนที่เคยโยนทิ้งไปเมื่อวันวาน ด้วยการทำลายความเชื่อใจว่าร่างสูงจะไม่มีวันทำร้ายตนเอง

            คิบอมที่โดนอารมณ์โทสะและความน้อยใจเข้าเล่นงานจับร่างบางกำลังอ่อนระทวยให้ลุกขึ้นนั่งซ้อนอยู่ด้านหน้าใช้แขนล๊อคไว้ลำตัวจนแผ่นหลังชิดติดแผงอกของตนเองบังคับให้เขาหันมองภาพของเพื่อนรักที่อยู่ในสภาพเดียวกันราวกับเป็นภาพที่สะท้อนจากกระจก ปรายเท้าของร่างสูงสอดเข้ามาคล้องกับข้อเท้าของตนก่อนที่เรียวขาจะถูกแรงดึงบังคับให้อ้าออกเผยทุกสัดส่วนให้ทั้งคยูฮยอนและซองมินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามได้เห็นชัดๆ
“นัวเนียกันนักก็มองกันไปให้พอ!!!” ประโยคนี้ดังขึ้นในใจของสองหนุ่มพร้อมกัน..ต้องสั่นสอนให้รู้เอาคืนให้เข็ดจนไม่กล้าทำอะไรแบบนี้อีกเป็นครั้งที่สอง!
“อ๊ะ ~ อื้อออ....” บั้นท้ายกลมมนหดเกร็งเมื่อสัมผัสได้ถึงส่วนใหญ่โตของคนที่กำลังขบเม้มหัวไหล่ของเขาฝากรอยอารมณ์ทิ้งไว้เป็นรอยจูบที่ถูกดูดอย่างรุนแรงจนมันเป็นสีเขียวคล้ำแทนสีแดงสด
“ในเมื่ออยากแล้วก็โชว์มันตรงนี้ก็แล้วกันคุณฟิชชี่ โชว์ให้เพื่อนคุณเห็นไงคุณชอบอยู่แล้วนี่!! ไม่แคร์อยู่แล้วนี่ครับว่าจะเอากับใครถ้างั้นหมาตัวนี้ของคุณจะทำให้คุณหายอยากหายเสี้ยนก็แล้วกัน!!” ทั้งรักทั้งเจ็บ...คำพูดที่ไร้เยื่อใยของคิบอมกำลังกรีดหัวใจของเขาให้เป็นแผลกว้างก็คงไม่ต่างอะไรกับใบหน้าคมที่เจ็บปวดกับคำพูดของคนที่เขากำลังทำร้ายที่พูดใส่เขาก่อนหน้านี้..
สวบ
“อ๊า!! ฮึก! อย่านะคิบอม!!” เสียงหวานหวีดร้องเมื่อนิ้วทั้งสามถูกสอดเข้ามาในช่องทางพร้อมกันจนสุดความยาวเต็มแรงดันไม่มีความโอนอ่อนใดๆ ทั้งที่ไม่ชอบไม่อยากถูกสัมผัสแต่ร่างกายกับไม่ยอมเชื่อฟังสะโพกมนขยับขึ้นลงไปตามจังหวะที่ถูกคิบอมปรนเปรอให้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังด้วยความเคยชิน
ฟึบๆๆๆ
มือหนาสาวแก่นกายของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วไปพร้อมๆกับชักนิ้วที่ฝังอยู่ในตัวอีกคนจนร่างบางต้องจิกเล็บเข้ากับต้นขาแกร่งเพื่อใช้เป็นที่ยึดเหนี่ยวระบายความสุขระคนทุกข์ครั้งนี้ปล่อยให้อารมณ์ที่พลุกพล่านอยากปลดปล่อยยอมให้คิบอมทำตามอำเภอใจโดยไม่ขัดขืนได้แต่หลับตาลงเพราะไม่อยากมองใบหน้าของเพื่อนรักที่กำลังเจิ่งนองไปด้วยน้ำตาและไม่อยากฟังเสียงโต้เถียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของซองมินที่เขาช่วยอะไรไม่ได้เลย
“หลับตาทำละครับคุณฟิชชี่? มองดูสิครับคนที่คุณหันไปหาความสุขกับเขาแทนผมน่ะ” ด่าว่าคยูฮยอนว่าเลวทรามตอนนี้ตัวเขาเองก็ไม่ต่างกัน...ทั้งที่รู้แต่ก็หยุดความโกธรที่เหมือนกับไฟลามทุ่งนี้ไม่ได้
“ไม่จำเป็น!! เพราะฉันรู้ดีว่าเวลาซองมินมีอารมณ์เขาทำหน้ายังไง อื้อ~” ต่างคนต่างสาดอารมณ์ใส่กันคำพูดของร่างบางทำเอาคิบอมควันออกหู
“หยุดพูดแบบนั้นซะทีลีดงแฮ !!
“ทำไม?! มันรับไม่ได้รึไง!! ฉันกลับซองมินเคยทำอะไรกันมากกว่าที่นายกับเพื่อนของนายเห็นวันนี้ด้วยซ้ำแล้วก็ไม่ใช่แค่ซองมินด้วย!! เข้าใจอะไรผิดไปแล้วมั้งถ้าคิดว่าคนอย่างฟิชชี่ดาวแห่งแพลตตินั่มคนนี้จะจมปรักอยู่กับผู้ชายแค่คนเดียว!!
“งั้นก็ดีผมจะได้รู้ว่าผมมันก็เป็นแค่ของเล่นของคุณเท่านั้น ดีครับ!ผมจะได้ไม่จำเป็นต้องถนอมคุณเหมือนที่ผ่านๆมา!!
“แล้วฉันเคยขอให้นายทำแบบนั้นรึไง!!” ไม่มีใครยอมใคร...ต่างคนต่างใช้อารมณ์มากกว่าบดบังความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้แก่กัน ต่างฝ่ายต่างตอบรับรุกเร้าด้วยโทสะ
ปากอิ่มบดเบียดแนบชิดริมฝีปากบางขบดูดกัดไปตามความร้อนของร่างกายที่รุมเร้าดงแฮส่ายสะโพกกดลงไปเสียดสีกับแกนกลางที่ดุดดันอยู่ใต้กางเกงของร่างสูงปล่อยให้ร่างกายตอบสนองด้วยความเคยชินก่อนที่คิบอมจะรูดซิบกางเกงของตัวเองลงแล้วดึงเอาส่วนสำคัญออกมาแทรกผ่านหว่างขาให้โผล่ขึ้นมายังด้านหน้าตั้งเด่นคู่กับของคนในอ้อมกอดเพื่อให้มือบางได้จับมันชักรูดให้ตนเองซึ่งดงแฮก็คว้ามันมาลูบคลำด้วยความคุ้นเคย
สองร่างผลัดกันปรนเปรอจนเสี้ยวนาทีหนึ่งดงแฮแอบเผลอเคลิบเคลิ้มไปกับสิ่งที่ร่างสูงนั้นมอบให้แต่ฐิถิที่มีก็ปัดความรู้สึกเหล่านั้นให้หายไปเหลือเพียงหัวใจที่แตกหักและอารมณ์อยากประชดประชันที่ไม่อยากยอมแพ้ร้องขอให้อีกฝ่ายอ่อนโยนเหมือนกับที่เคยทำ
“ถ้าอยากให้ผมอ่อนโยนด้วยก็ขอร้องผมสิ..” ร่างสูงยื่นข้อเสนอให้ในตอนนี้บทบาทฐานะนั้นสลับกัน...ตอนนี้ดงแฮกำลังเปลี่ยนมาเป็นผู้ถูกทรมาน
“ไม่จำเป็น!! ผู้ชายทุกคนก็รุนแรงกับฉันกันทั้งนั้นนั่นล่ะ!!
คนอย่างลี ดงแฮไม่คนนี้ไม่เคยง้อใครโดยเฉพาะกับคนที่เป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยงที่ทรยศเจ้านายอย่างคิม คิบอม!’
“แล้วเป็นไงครับผมรุนแรงสู้ผู้ชายคนอื่นของคุณได้รึเปล่าครับคุณฟิชชี่!”ยังคงประชดประชัน..คิบอมยังคงโมโหกับคำพูดของร่างบางที่บอกตนว่าเขาไม่ใช่คนแรกที่ได้สัมผัสร่างกายนี้และกำลังโกธรที่ร่างบางพูดยั่วให้เขาเกิดโทสะปั่นหัวเขาเล่นราวกับว่าเขาเป็นเพียงแค่ผู้ชายโง่ๆที่ไม่รู้ว่าร่างบางกำลังโกหก
แค่พูดคำว่า “ไม่ใช่” แค่แก้ตัวกลับมา แค่แสดงให้รู้ว่ารักและแคร์กันบางให้รู้ว่าเขานั้นก็สำคัญบ้างมันยากมากนักรึไง?..
 “อึก!!
ใบหน้าหวานที่ถูกประดับด้วยดวงตาเยิ้มฉ่ำปรือมองคนที่ตอนนี้ค่อนขอดตัวเองเผยอปากส่งเสียงครางเป็นคำตอบแทนคำพูดที่อยากจะด่าสาดใส่ใบหน้าคมที่เย็นชาและจ้องมองเขาด้วยแววตาที่เข่นเขี้ยว
ทั้งที่ผ่านมาเขาไม่เคยให้ใครได้แตะต้องร่างกายนี้เลยซักครั้ง ยกเว้นคนที่กำลังมองเขาด้วยสายตาเย้ยหยันและไล่ต้อนเขาในตอนนี้

สิ่งที่คิบอมกำลังทำนั้นดงแฮคิดว่ามันคือการหักหาญน้ำใจไม่ใช่การสั่งสอนเหมือนที่เจ้าตัวคิด คำพูดสัมผัสมันรุนแรงเย็นชาไร้ความรู้สึกเกินกว่าจะให้อภัยต้องมาโดนกระทำรุกไล่ต่อหน้าคนอื่นแบบนี้มันเหมือนหักหน้าเขาชัดๆ!! ช่วงเวลาที่มีค่าและมีความสุขถูกน้ำตาของร่างบางที่กลั้นมันไว้ไม่ไหลออกมากำลังเอ่อท่วมอยู่ภายในใจทับถมจมหายยากที่จะเรียกคืน มันน่าโมโหตัวเองนักที่รู้สึกดีกับการกระทำอันเย็นชาของคนที่ตนเชื่อใจ...เชื่อว่าว่าจะไม่มีวันทำร้ายกัน
“ฮึก!” ขาเรียวแยกออกกว้างมากขึ้นเอนแผ่นหลังซุกใบหน้ากับต้นแขนของคิบอมหายใจรัวรดลำแขนใหญ่ที่เคยรู้สึกปลอดภัยเวลาแต่บัดนี้กลับเหมือนเส้นเถาวัลย์ที่มีหนามเลื้อยรัดจนเจ็บปวดไปทั่วทั้งกายและหยั่งรากลึกลงไปทำร้ายเขาถึงก้นบึ้งของหัวใจ มือหนาเร่งรัวชักรูดแก่นกายเล็กอย่างรวดเร็วและรุนแรงพร้อมบีบปรายมนย้ำให้ความเสียวว่ากระตุ้นให้ร่างบางเร่งระบายความอึดอัด
“อ๊า!!!!!!!!!!!!!!” เสียงหวานร้องครางลั่นฉีดพ่นของเหลวยาวสีขาวข้นไปถึงโต๊ะแก้วปลดปล่อยให้เพื่อนรักและชายอีกคนเห็นเต็มตากระตุกขาเกร็งซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อปล่อยเอาน้ำกามที่หลั่งออกมามากมายจนเลอะเทอะเป็นวงกว้างก่อนจะนั่งหอบด้วยใบหน้าแดงก่ำ



ยังไม่จบนะคะ ตัดกลับอ่านต่อได้จนจบตอนที่เด็กดีค่ะ

วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554

NC The XXX Project มั่ว#2

NC The XXX Project มั่ว#2



            ฮันคยองก้าวเดินขึ้นมาถึงชั้นของฮยอกแจอย่างไม่เร่งรีบ หากแต่ใครมองเข้าไปในแววตาสีดำสนิทจะพบว่ามันกำลังคุโชนด้วยความหึงหวง จนชายหนุ่มต้องพยายามระงับสติตัวเองเอาไว้ ทั้งที่เขาเป็นคนมีความอดทนสูง แต่กับฮยอกแจ เขาแทบไม่สามารถอดทนอะไรได้เลย รู้อยู่ว่าเสียงหวานที่เอ่ยเรียกชื่อเขาบ่งบอกว่าฮยอกแจเชิญชวนเพียงเขา แต่ทำไมต้องทำต่อหน้าไอ้พวกข้างล่างนับร้อยๆ คน

            ไม่ชอบที่ฮยอกแจยั่วมั่วไปทั่วอย่างนี้...ไม่ชอบเลยจริงๆ

            แอ๊ด

            ฮันคยองเปิดประตูเข้าไปอย่างแผ่วเบา นัยน์ตาคมกวาดมองห้องสีดำแสนหรูหรา นึกว่าคนตัวเล็กคงอยู่ภายในห้องนอนส่วนตัวข้างใน หากแต่ขายาวต้องชะงักค้างเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง

            “อือ...อ้ะๆ...ดีจัง...ฮะ...ฮันนี่...” เสียงครวญครางที่แสนเซ็กซี่เป็นเสียงที่เขารู้จักดี ใบหน้าคมคายหันขวับไปทางต้นเสียง จนต้องเบิกตากว้างขึ้นอีกนิด

            ภาพเบื้องหน้าของคนตัวเล็กทำให้เลือดในกายเดือดพล่าน...บนเตียงนอนกลมหลังใหญ่ปูผ้าสีดำสนิท ประดับด้วยไฟระย้าเพิ่มความหรูหรามีร่างเล็กบอบบางที่ขาวผ่องไปทั้งเนื้อทั้งตัว...ใช่ ฮยอกแจกำลังเปลือยเปล่า หากแต่ไม่ได้เพียงเปลือยอย่างเดียว แต่กลับมีอุปกรณ์สีขาวขุ่นสอดแทรกอยู่ในช่องทางสีสด!

            ฮันคยองมองภาพตรงหน้าตาวาววับ ฮยอกแจกำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนชันขาขาวออกกว้าง ใบหน้าสวยบิดเบ้ด้วยความต้องการ นัยน์ตาเรียวรีฉ่ำปรือปรอย ริมฝีปากเผยอหอบหายใจแรงๆ มือข้างหนึ่งกำลังยันเตียงเอาไว้แน่น ขณะที่มือเรียวอีกข้างกำลังดุนดันดิลโด้สีขาวขุ่นเข้าไปลึกขึ้นเรื่อยๆ

            ฮยอกแจมองร่างสูงใหญ่ที่ก้าวเข้ามาด้วยรอยยิ้มยั่ว อาการนิ่งค้างของชายหนุ่มทำให้เขาพอใจที่ทำให้อีกฝ่ายตะลึงได้ นึกขอบใจดงแฮอยู่ลึกๆ เมื่อเขาไปฝากเจ้าฟิชชี่ซาดิตม์ให้ช่วยซื้อดิลโด้อันนี้ให้ แถมยังเป็นแบบหมุนควงสว่านได้ตั้งเจ็ดระดับ

          จะยั่วให้กระแทกเข้าหาไม่ยั้งเลย คอยดูสิ

            คนตัวเล็กบอกกับตัวเองด้วยความรู้สึกหวามในอก เมื่อสบกับนัยน์ตาคมที่วาววับ หากแต่ยากกับการคาดเดาความรู้สึก

            “ฮันนี่อ่า...อึ้ก...ช่วยฮยอกจี้ด้วย ฮยอกจี้ตะ..ต้องการฮันนี่...” ฮยอกแจเอ่ยอย่างเว้าวอน ขณะที่เลื่อนไปแตะให้เซ็กส์ทอยอันใหญ่ที่กะแล้วว่าขนาดใกล้เคียงกับร่างสูงเริ่มทำงาน แรงสั่นของมันทำให้เสียววูบวาบภายใน

            “นะ...อื้อ...ช่วยฮยอกจี้ด้วย..” ฮยอกแจยื่นมือมาข้างหน้า ราวกับขอความเมตตาด้วยใบหน้ายั่วยวนและต้องการจนทำให้ผู้ชายคนไหนๆ ไปถึงห้วงอารมณ์ได้แทบทันที

            นัยน์ตาเรียวรีมองชายหนุ่มที่ก้าวเข้ามาหาเขาช้าๆ อย่างชอบใจ ร่างเล็กยิ่งแยกปลายเท้าออกห่าง มือเรียวก็ลูบไล้ไปตามเรือนกายขาวผ่องของตัวเอง จนกระทั่งรู้สึกถึงแรงยวบของที่นอน แล้วชายหนุ่มรูปหล่อก็กำลังคร่อมทับอยู่เหนือร่างของเขา

            หมับ

            “อ้ะ...ฮะ...ฮันนี่ทำอะไร”

            ฮยอกแจร้องถามอย่างงุนงง เมื่อมือเรียวที่กำลังเคลื่อนไปตามร่างกายของตน ถูกฝ่ามือร้อนผ่าวคว้าหมับแล้วยกขึ้นเหนือหัว ไม่ทันรู้ตัวผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ก็พันธนาการแขนเขาไว้กับหัวเตียงอย่างรวดเร็ว จนต้องเอียงคอขึ้นมอง

            “ลงโทษ!

            ชายหนุ่มบอกเสียงหนัก จนฮยอกแจรีบหันมามองสบตา แต่ยังไม่ทันจะได้สบสายตาชายหนุ่มตรงหน้าดี เสียงหวานก็ต้องหวีดร้องออกมาอย่างตกใจ

            “อ๊าาาา!!...ฮันนี่...ยะ...อย่ากดตรงนั้น...อ้ะ”

            ร่างเล็กหวีดร้องออกมา ขณะที่ใบหน้าเรียวสวยก้มมองช่วงล่างของตนที่ถูกท่อนพลาสติกนุ่มหยุ่นดันเข้าไปจนสุด แล้วฮันคยองก็เลื่อนระดับการหมุนควงของมันขึ้นสูงจนร่างเล็กสะดุ้งเฮือก เสียววูบเข้ามาในช่องท้อง

            “ก็มั่วกับมันไปแล้วนี่...ก็ทำให้สุดสิ” ฮันคยองกระซิบข้างหูคนตัวเล็ก แล้วกลับมาสบตากับนัยน์ตาเรียวรีที่เอ่อคลอด้วยหยดน้ำใสราวกับไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

            ทันทีที่ฮยอกแจสบประสานสายตากับชายหนุ่ม ใจดวงน้อยก็สะตุกวาบ รู้สึกใจหายวูบเมื่อเห็นว่าแววตาของผู้ชายตรงหน้ากำลังโกรธจัด ฟันคมขบกันแน่นจนขึ้นสันนูน

            “ฮะ...ฮันนี่...มะ...ไม่...” ฮยอกแจร้องเสียงสั่น รู้สึกใจเสียไม่น้อยกับแววตาของคนตรงหน้าที่มองมา มือเรียวอยากจะยกขึ้นกอดรั้งร่างสูงเอาไว้ แต่ผ้าเช็ดหน้าที่พันเอาไว้อย่างแน่นหนาก็ทำได้เพียงเอ่ยปาก

            กึก

            “อ๊าาาา!!!...แรงไป...แรง...ยะ...ฮันนี่...ได้โปรด...อึ้ก” ฮยอกแจถึงกับกระตุกวูบ ร่างกายท่อนล่างต้องบิดเร้าไปมา นัยน์ตาเรียวรีเบิกกว้างอย่างตกใจ เมื่อฮันคยองเลื่อนมือไปปรับระดับให้มันจนสุด แรงเสียดสีที่ทำให้ร่างกายสุขสม แต่ใจดวงน้อยกลับไม่รู้สึกอะไรไปกับมัน เสียงหวานกรีดร้องเบาๆ น้ำหยดใสเอ่อคลอรอบดวงตา

            “ให้ผมทำอะไรล่ะ...คุณไปยั่วไอ้พวกข้างล่างจนผมหึงแทบบ้า ส่งสายตามั่วไปทั่วอย่างนั้น รู้มั้ยว่าผมเกือบจะไปกระชากคุณลงมาจากเวทีเมื่อกี้...แล้วนี่อีก...คุณกำลังเล่นกับของเล่นทั้งที่มีผมอยู่ตรงนี้ทั้งคน อยากมั่วกับมันมากใช่มั้ย ผมก็ทำให้คุณสมใจไงล่ะ!!

            ฮันคยองตวาดลั่น ใบหน้าคมคายฉายชัดถึงความโมโหจนร่างเล็กรู้สึกได้         ฮยอกแจเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ใจดวงน้อยอยากอธิบาย หากแต่แรงสั่นสะเทือนในกายก็มากพอให้มีเพียงเสียงครวญครางหวานดังลอดออกมา ร่างกายตอบสนองของเล่นที่เขาแค่อยากใช้ยั่วอีกฝ่าย ไม่ใช่การช่วยตัวเอง

            “อ้ะๆ...มะ...ไม่...ฮยะ...ฮยอกจี้ไม่ได้ยั่วใคร...ฮยะ...ฮยอกจี้ยั่ว...อือๆ...ฮันนี่คนเดียว” ร่างเล็กบอกเสียงสั่น บิดกายเร้าอย่างทรมานกับความคับแน่นด้านล่าง เสียววูบวาบ แต่ร่างกายกลับไม่รู้สึกสุขสมเหมือนตกอยู่ในอ้อมกอดของคนตรงหน้า มันอาจจะทำให้ถึงห้วงอารมณ์ได้เหมือนกัน แต่การเล่นกับของเล่นไม่ใช่เซ็กส์ที่เขาต้องการ...ไม่เลยสักนิด

            ไม่ ฮยอกจี้ต้องการเพียงฮันนี่คนเดียวเท่านั้น

            “แล้วให้ผมทำยังไง” ฮันคยองถามเสียงขุ่นจัด ร่างสูงเพียงคร่อมทับร่างเล็กบอบบางอยู่อย่างนั้น มือใหญ่วางแนบลงกับที่นอนข้างลำตัวของฮยอกแจ แต่ไม่แตะต้องเรือนกายของอีกฝ่ายเลยสักนิด นัยน์ตาคมมองของเล่นที่สอดแทรกอยู่ในกายของฮยอกแจอย่างหงุดหงิด อยากจะโยนมันทิ้งไปให้พ้นๆ

            “ลง...อือ...โทษ...อึ้ก...ลงโทษฮยอกจี้นะ...ตะ...แต่อย่าโกรธฮยอกจี้...ได้โปรด...อึ้กๆ...ฮยอกจี้จะไม่ทำ...อ้ะ...อีกแล้ว” ร่างเล็กอ้อนวอนขอร้องเสียงสั่น นัยน์ตาเรียวรีสั่นระริก ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะโกรธถึงเพียงนี้ รู้สึกขัดใจกับของเล่นที่กำลังทำงานเหลือเกิน ใจอยากโผเข้าหาร่างสูง คลอเคลียให้หายโกรธ แต่ในเวลาที่ถูกมัดมือ แถมมีไอ้เครื่องบ้านี่ทำให้เขาทำได้เพียงนอนทอดกาย หอบหายใจแรงๆ

            ฮันคยองมองใบหน้าสวยจัด ความรู้สึกขุ่นเคืองยังอัดแน่นอยู่ในหัวใจ แต่เมื่อมองนัยน์ตาเรียวรีที่ฉ่ำด้วยหยดน้ำใสที่เขารู้สึกว่ามันไม่ได้มาจากอารมณ์ทางเพศ เขาก็ใจอ่อนยวบ มือใหญ่ยกขึ้นเกลี่ยน้ำตาให้อย่างเบามือ

            “ลงโทษ ผมทำแน่...ผมไม่ยอมให้คุณไปยั่วใครนอกจากผมอีกแล้ว!” ชายหนุ่มว่าเสียงหนัก แต่ยังไม่แตะต้องร่างเล็กมากกว่านั้น

            “ฮยะ...ฮยอกจี้ไม่ได้...อึ้ก...ยั่วใครนะ...ฮยอกจี้... ข้างล่าง....อ๊า...ฮยอกจี้ยั่วฮันนี่คนเดียวนะ” เสียงหวานปนหอบหายใจเอ่ยบอก อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาไม่ได้ยั่วพวกคนข้างล่างแม้แต่คนเดียว ตอนที่กำลังโชว์ตัว คนเดียวที่เขานึกถึงมีเพียงฮันคยองเท่านั้น

            เสียงหวานที่เอ่ยบอก ทำให้ใบหน้าคมคายคลายความขุ่นเคืองลงไปเล็กน้อย แต่ความจริงที่รู้อยู่แก่ใจว่าร่างเล็กเป็นดาวแห่งแพลตตินั่ม แถมยังเป็นดาวยั่ว การแสดงโชว์อย่างเมื่อกี้เกิดขึ้นได้ทุกเดือน ซึ่งเขาไม่ต้องการ

            ความรู้สึกในใจบอกเขาว่าเขาไม่ยอมให้ฮยอกจี้โปรยเสน่ห์มั่วไปทั่วอย่างเมื่อกี้อีกแล้ว

            “อึ้กๆ...ฮันนี่...ยะ...อย่า...” ฮยอกแจร้องเสียงสั่น เมื่อฮันคยองขยับหมุนวนดิลโด้อันใหญ่อย่างเบามือ ให้แรงขยับหมุนของมันยิ่งเสียดสีกับผนังอุ่นนิ่ม ริมฝีปากสีสดอ้าเผยอออกอย่างรวดเร็ว ใจดวงน้อยยิ่งดิ่งวูบลงเมื่อชายหนุ่มยังไม่แตะต้องร่างกายเขาด้วยซ้ำ

            ฮันคยองไม่ตอบรับคำของร่างเล็ก นอกจากยังคงขยับอุปกรณ์อย่างเชื่องช้า หากแต่ปรับให้มันหมุนควงแรงที่สุด นัยน์ตาคมกริบมองใบหน้าสวยที่ฉายแววเว้าวอน ขอร้องให้เขาหายโกรธ และเขาจะทำให้ร่างเล็กรู้ว่า ของพวกนี้มันไร้ค่าที่สุด

            เขาจะไม่เป็นคนเดียวที่หลงใหลในตัวของฮยอกแจ แต่เขา...จะทำให้ฮยอกแจไม่สามารถมีใครอื่นนอกจากเขาได้อีก

            “อื้อๆ...อ้ะ...ขอโทษ...ฮยอกจี้ขอโทษ...หายโกรธฮยอกจี้นะ...” ฮยอกแจร้องเสียงสั่นพร่า ร่างกายกระตุกน้อยๆ เมื่อของที่เสียบคาไว้โดนจุดกระสันในกายจนเสียววูบไปทั้งช่องท้อง แต่มันก็แค่นั้น ร่างกายและจิตใจเขาไม่ได้ร้อนผ่าวราวถูกไฟแห่งกามารมณ์ปกคลุมเหมือนตอนอยู่ในอ้อมกอดของคนตรงหน้าเลยสักนิด

            ถ้ารู้ว่าไอ้ที่ยั่วไว้ข้างล่าง ตั้งใจจะให้ฮันคยองต้องการจนรีบขึ้นมากกกอดเขาไว้ ได้ผลตรงกันข้ามอย่างนี้ ลีฮยอกแจจะใส่ทั้งเสื้อโค้ท ทั้งหมวก บวกแว่นตาลงไปโชว์ตัวครั้งหน้า และจะไม่ถอดออกสักชิ้นเด็ดขาด!

            “ไม่ดีหรือ ก็คุณอยากเล่นกับมันนี่นา” ฮันคยองก้มลงกระซิบชิดริมหูเล็ก ใจอยากจะกดจูบ เล้าโลมไปทั่วกายขาวผ่อง แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาของเขา นัยน์ตาคมจึงมองเรือนร่างแสนงดงามที่ยั่วยวนอารมณ์เหลือเกิน

            แค่ฮยอกแจเล่นลิ้นหน่อย แก่นกายเขาก็ปวดหนึบไปหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปถอดเสื้อโชว์ข้างล่างนั้นเลยสักนิด

            “อ้ะๆ...มะ...ไม่ไหวแล้ว...อึ้กๆ...อ๊าาาาาาา”

            ร่างเล็กครางถี่ กระตุกกายวาบ เมื่อถึงสุดปลายทางของห้วงอารมณ์ ร่างเล็กหอบหายใจแรงๆ นัยน์ตาเรียวรีจับจ้องชายหนุ่มตรงหน้าไม่วางตา

            “ฮันนี่...ฮันนี่อ่า...แฮ่กๆ...อย่าเงียบสิ...นะ” ฮยอกแจรีบเอ่ยบอก ทั้งที่เขาสามารถยั่วยวนอีกฝ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็นสีหน้า แววตา ท่าทาง แต่เขาก็ไม่ทำ ในเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังโกรธอย่างนี้ ได้แต่พูดขอร้องให้อีกฝ่ายยกโทษให้

            ฟึ่บ

            “อือ”

            ร่างเล็กร้องเบาๆ เมื่อฮันคยองดึงรั้งดิลโด้ออกไปจากช่องทางอุ่นนุ่มแล้วโยนมันทิ้งไปข้างเตียง นัยน์ตาคมจับจ้องเรือนร่างแสนเซ็กซี่ไม่วางตา แล้วตวัดกลับมาสบกับนัยน์ตาเรียวรีนิ่ง

            “ผมจะลงโทษคุณ”

            “อื้อ!

            สิ้นเสียงทุ้ม ริมฝีปากอุ่นจัดก็กดลงกับกลีบปากนุ่มละมุนอย่างรวดเร็ว ดูดเม้มแรงๆ จนฮยอกแจตัวสั่นระริก ความรู้สึกเหมือนกำลังถูกแสดงความเป็นเจ้าของอยู่ ร่างทั้งร่างกระตุกวาบด้วยความยินดี ใจดวงน้อยโอนอ่อนไปกับสัมผัสของอีกฝ่ายทันที จนต้องเงยหน้าไขว้คว้ารสจูบที่แสนร้อนแรงมากยิ่งขึ้น

            เสียงครางหวานดังก้องในลำคอ เมื่อร่างเล็กดูดปากชายหนุ่มกลับอย่างร้อนแรงพอกัน เรือนร่างขาวผ่องกระตุกน้อยๆ ความต้องการสาดซัดเข้ามาอย่างรุนแรง เมื่อมือใหญ่กำลังลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังบาง ไต่ลงต่ำขยี้ขยำก้นนุ่มอย่างไม่เบาแรง จนต้องยกร่างขึ้นเบียดชิดอีกฝ่ายอย่างเต็มใจ

            เสียงจูบดังแทรกความเงียบของห้องหรู ดังก้องปลุกเร้าความต้องการของคนทั้งสองให้ลุกโชน ฮันคยองเคลื่อนใบหน้าลงต่ำแล้วซุกไซร้ที่ซอกคอขาว แต่งแต้มรอยแดงเพิ่มเติมบนผิวขาวผ่อง อ้อมกอดแข็งแกร่งโอบรัดร่างเล็กจนแทบกลืนหายไปกับอก ความร้อนจากร่างสูง ทำให้ฮยอกแจรู้สึกดีจนแทบทนไม่ไหว

            แตกต่าง...เพียงแค่เป็นฮันคยอง เขาก็รู้สึกดีมากจนไอ้ของเล่นเมื่อกี้เทียบไม่ติดเลยสักนิด เพียงริมฝีปากกดจูบ เพียงมือใหญ่ลูบไล้ ฮยอกแจที่เพิ่งจบกับของเล่นที่ใครต่อใครก็บอกว่าเสียวนักหนากลับไม่เสียดายเลยสักนิดหากจะโยนมันทิ้งไป

            ก็เขามีเป็นแท่งเป็นอันของฮันนี่อยู่แล้วนี่นา

            “อ่า ฮันนี่” ฮยอกแจครางพร่า รู้สึกถึงริมฝีปากร้อนที่รุนแรงกว่าปกติ กดจูบไปทั่วร่างกาย แล้วเสียงหวีดหวานก็ดังก้อง เมื่อริมฝีปากร้อนไต่จูบเนื้ออ่อนนุ่มแรงๆ ลงมาที่แผ่นท้องขาวผ่องจนต้องผวาร่างเข้าหา กระแสแห่งอารมณ์เอ่อล้นเข้ามาในอก จนต้องแยกเรียวขาขาวออกกว้าง นอนทอดกาย ครวญครางให้อีกฝ่ายฟังอย่างถึงใจ

            “อ๊าาาา...อึ้กอื้อ...ฮะ...ฮันนี่ๆ...” แผ่นอกบางเด้งขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว เมื่อชายหนุ่มที่กำลังพรมจูบหนักๆ อยู่บนแผ่นขาวขาวผ่อง ส่งมือขึ้นมาไต่สะกิดที่ยอด อกสีหวานทั้งสองข้าง แล้วบดขยี้ปลายนิ้วแรงๆ จนเสียววูบวาบไปทั่งร่าง เรือนผมที่ยุ่งเหยิงส่ายสะบัดไปกับหมอนใบนุ่ม ใบหน้าแสนเซ็กซี่เชิดหน้าขึ้นสูง ครางออกมาสุดเสียง

            การเล้าโลมของร่างสูงรุนแรงกว่าปกติ แต่ทำให้ร่างกายขาวผ่องตื่นตัวจนเพียงแค่กดจูบ เพียงแค่เอามือลูบ มันก็วูบวาบจนแทบทนไมไหว

            ฮันคยองเงยหน้าขึ้นมากดจูบที่กลีบปากแดงก่ำอีกครั้งอย่างไม่ปรานี ริมฝีปากร้อนทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยม ดูดปากแสนหอมหวานแรงๆ จนร่างเล็กครางอื้ออึงในลำคอ ผวาร่างเข้ามาไขว้คว้าหาจูบหวานๆ ลบความร้อนแรงที่กำลังเกิดขึ้น

            ชายหนุ่มจูบอย่างหนักหน่วง ขณะที่มือใหญ่ก็ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวเองออกไปอย่างไม่ใส่ใจ แล้วกระชากมันออกไปโดยแรง ร่างสูงผละห่างจากร่างเล็กออกมาหน่อย จนฮยอกแจผวาร่างตาม นัยน์ตาเรียวรีมองมาอย่างอ้อนวอนขอร้องให้หายโกรธ แต่มันกลับเซ็กซี่เกินคำบรรยาย มือใหญ่ปลดเข็มขัดและกางเกงออกไปอย่างไม่ไยดี ก่อนจะกระโจนกลับมาแนบร่างกับคนตัวเล็ก ขยับเสียดสีจนต้องซี๊ดปากด้วยความเสียวซ่าน

            “อ่า ฮยอกจี้” ฮันคยองกระซิบพร่าชิดแผ่นอกขาวผ่องที่แสนบอบบาง แล้วก็ฉกวูบลงไปที่เม็ดบัวสีหวานอย่างรวดเร็ว จนฮยอกแจแทบตั้งตัวไม่ทัน มือใหญ่สอดรัดแผ่นหลังบางเข้ามาจนร่างกายแทบไร้ช่องว่าง เรือนกายแกร่งก็ขยับแทรกมาอยู่ตรงกลางระหว่างขาเรียว มือใหญ่เริ่มลูบไล้ไปตามแผ่นหลังอย่างไม่ปรานีปราศรัย แล้วขยับไปบีบเฟ้นก้นนุ่มนิ่มอย่างไม่เบาแรง

            “อ๊า...ฮันนี่...แรง..อื้อ....ดูดอีก...อึ้กๆ” ฮยอกแจครวญครางก้อง เมื่อลิ้นร้อนจัดกำลังเลียยอดอกที่ชูชันอย่างอร่อยลิ้น หากแต่คนถูกชิมกำลังแทบคลั่งเมื่อถูกเล้าโลมอย่างร้อนแรงอย่างนี้ คำขอที่ฮันคยองก้มลงปรนเปรอให้อย่างถึงใจ ริมฝีปากร้อนห่อน้อยๆ แล้วดูดยอดอกสีหวานแรงๆ จนคนตัวเล็กหวีดลั่น ซึ่งทำให้ริมฝีปากของฮันคยองปรากฏรอยยิ้มสมใจแวบหนึ่ง นัยน์ตาคมวาววับ

            “อื้อ...ดะ...ดีจัง...” ฮยอกแจกระซิบพร่าอย่างพอใจ

            !!...อึ้ก ฮันนี่!!!!!!!!

            ยังไม่ทันที่ฮยอกแจจะครวญครางด้วยความสุขสมที่ถูกปรนเปรอไปตามยอดอกมากกว่านี้ นัยน์ตาเรียวรีก็เบิกกว้างอย่างตกใจ เสียงหวีดร้องดังก้องห้องนอนกว้าง เมื่อท่อนเนื้อร้อนจัดกระแทกเข้ามาในกายรวดเร็วและรุนแรงอย่างไม่ทันตั้งตัว ฝ่ามือที่ถูกมัดเอาไว้จิกเข้าหากันจนเนื้อถลอก รู้สึกถึงคลื่นเสียวกระแทกเข้าหาร่างจนแทบสิ้นสติ

            “โอ้ว!!...ฮันนี่...ฮันนี่...อ้ะๆ...ยะ...อย่าเพิ่ง..ซี๊ดดดด...มัน...อึ้ก...แรงไปแล้วนะ...อ๊าาาา!!” ฮยอกแจร้องแทบไม่เป็นภาษา เมื่อท่อนเนื้อร้อนคลื่นเข้าหาจนสุดด้ามเพียงแค่กระแทกเข้าไปทีเดียว ด้วยความที่ถูกเจ้าดิลอันนั้นเบิกทางก่อน ร่างเล็กจึงไม่รู้สึกเจ็บ หากแต่ว่ามันเสียวจนเกินจะทานทนต่างหาก

            เสียงครวญครางดังก้องห้องนอนกว้าง ปากแดงช้ำเม้มเข้าหากัน ร่างเล็กแอ่นจนแผ่นหลังเป็นเส้นโค้ง เสียงหอบหายใจดังกึกก้อง

            กลิ่นของเซ็กส์ที่แสนร้อนแรงลอยคละคลุ้งไปในอากาศ จนทำให้ฮยอกแจรู้เลยว่าวันนี้...เซ็กส์ของพวกเขาต้องร้อนแรงได้อย่างถึงที่สุด

            เซ็กส์ที่ฮันคยองกำลังลงโทษเขา

            “อึ้ก...ซี๊ดดดด” ฮยอกแจห่อปากเข้าหากันทันที เมื่อชายหนุ่มที่คร่อมทับอยู่กระดกกายเข้าหา รอยยิ้มบนใบหน้าคมคายปรากฏน้อยๆ ราวกับอาจารย์กำลังลงโทษ   ลูกศิษย์ที่ทำผิด มือใหญ่ก็ยกขึ้นแตะยอดอกเบาๆ แล้วส่งลิ้นร้อนไปตวัดเลีย

            “มันคือบทลงโทษสำหรับคุณ...อึ้ก...รู้มั้ย...ผมเป็นคนขี้หึง...” ฮันคยอง บอกเสียงหนัก แล้วดึงกายออกอย่างรวดเร็ว แล้วในวินาทีต่อมาก็กดเข้าหาจน    ฮยอกแจเชิดใบหน้าอย่างแรง ส่ายสะบัดหัวไปมาอย่างเสียววูบวาบ

            “อึ้ก...อื้อออออ...ละ...ลงโทษ ฮยอกจี้ยอม...ถะ...ถ้า...แฮ่กๆ...ทำให้ฮันนี่...หายโกรธ” ฮยอกแจเอ่ยบอกอย่างยากลำบาก ช่องท้องกำลังอึดอัดไปด้วยความต้องการ หากแต่สิ่งหนึ่งที่ฮยอกแจตระหนักดีตั้งแต่ท่อนเนื้อร้อนขยับส่ายเข้ามาจนสุดคือ...ของฮันนี่ใหญ่กว่าเจ้าดิลโด้ที่เขาซื้อมาซะอีก

            “อ๊าาาา!!

            ฮยอกแจคิดได้เป็นอย่างสุดท้าย ก่อนที่สติของร่างเล็กจะถูกลบเลือนไปอย่างรวดเร็ว เมื่อฮันคยองขยับสะโพกกดแนบเข้ามาลึก ส่ายสะบัดไปมาเพื่อกระแทกเข้ากับจุดเสียวภายใน จนในหัวเห็นเพียงหมู่ดาวระยิบระยับ

            ฟึ่บๆ

            เสียงท่อนเนื้อร้อนเคลื่อนผ่าวเข้าไปในช่องทางอุ่นร้อนที่กำลังขมิบถี่รัวดังก้องภายในห้องนอนแสนกว้างขวาง ฝ่ามือเล็กที่ถูกผ้าผูกเอาไว้ เป็นการเปิดทางชั้นดีให้        ฮันคยองมอบบทลงโทษบนเรือนกายเปลือยเปล่าได้ทั่วถึงที่สุด เรือนร่างเล็กแทบไม่มีส่วนใดไม่โดนริมฝีปากดูดดึง ฝ่ามือร้อนผ่าวขยับมากอบกุมแก่นกายเล็กอย่างรวดเร็ว แล้วขยับโยกไปพร้อมกันด้วยสัมผัสที่ฮยอกแจแทบขาดใจ

            “อ๊าาาาา!!...เร็ว...ป่ะ...อ้ะๆ...อู้ว...เร็วไป...อึ้ก...แล้ว” ฮยอกแจหวีดร้องออกมา ใบหน้าสวยก็ส่ายสะบัดไปมา ร่างกายท่อนล่างขยับรับแรงกระแทกกระทั้นเข้ามาด้วยความเร็วที่มากขึ้น แต่ก็สู้แรงขยับกายของฮันคยองไม่ได้ ท่อนเนื้อร้อนขยับถี่ยิบ จนคนตัวเล็กได้แต่บิดกายไปมาอย่างทรมานปนสุขสม

            แม้ว่าประท้วงกับความเร็วอย่างนั้น แต่ฮยอกแจกลับเต็มใจเหลือเกินในการเงยหน้ารับจูบร้อนผ่าวที่ก้มลงมาสัมผัส จูบแลกลิ้นกับชายหนุ่มอย่างไม่รู้จักพอ ขณะที่ท่อนล่างของทั้งคู่ก็ขยับเข้าหากันอย่างร้อนแรง จุดไฟปรารถนาในใจของทั้งคู่ไม่ให้ดับลงง่ายๆ เหงื่อเม็ดเล็กที่ไหลซึมทั่วทั้งเรือนกายทั้งสอง ทำให้ทุกครั้งที่ขยับตัวเสียงเสียดสียิ่งดังเคล้ากับเสียงเนื้อกระทบเนื้อ ริมฝีปากสีระเรื่ออ้าปากฮุบอากาศทันทีที่เป็นอิสระ เอียงคอให้ริมฝีปากร้อนบดจูบที่ลำคอ ตีตราบนผิวขาวผ่องที่ยามนี้ขึ้นสีชมพูระเรื่อไปทั่วร่าง

            “อืม...ฮยอกจี้...” ฮันคยองคำรามก้องในลำคอ

            “อึ้ก...ฮะ...ฮันนี่...ซี๊ดดดด...ฮันนี่อ่า” ฮยอกแจครวญครางชื่อช่ายหนุมไม่ขาดปาก สติหายออกไปจากร่างแทบไม่มีเหลือ รู้เพียงว่าตอนนี้ตัวเองกำลังถูกเซ็กส์ของคนตรงหน้ามอมเมาจนคิดอะไรไม่ออก

            เร่าร้อน รุนแรง แต่แฝงด้วยความรู้สึกมากมายจนใจดวงน้อยแสนจะยินดีกับความรุนแรงที่ได้รับนี้

            ฮันคยองกำลังทำด้วยความรู้สึกหึงหวงเขาคนนี้...ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น... ฮยอกแจคนนี้ยอมทุกอย่าง

            “อ๊าาาาา!!!..กะ...ใกล้แล้ว...อึ้กๆ...ใกล้แล้ววววว....อร๊างงงงง” เสียงหวีดหวานดังถี่รัว เมื่อปลายนิ้วยาวสะกิดแรงๆ ทั่วแผ่นอกกว้าง อีกมือก็ชักรูดแก่นกายเล็กให้ ขณะที่ร่างกายที่เชื่อมต่อกันก็สะบัดคลั่งอยู่ภายใน จนร่างเล็กกระตุกวูบ หลับตาแน่นอย่างหมดเรี่ยวแรง

            แต่เหมือนร่างสูงใหญ่จะยังไม่พอใจกับบทลงโทษของตน

            ฟึ่บๆ

            “อ้ะอ๊าา!” ฮยอกแจที่เพิ่งทิ้งร่างลงกับที่นอนนุ่มถึงกับหวีดออกมาสุดเสียง เมื่อท่อนเนื้อด้านล่างยังไม่ผ่อนปรนแรงแต่อย่างใด มีแต่โถมกายเข้าใส่จนต้องขยับกายรับอย่างรุนแรง ปลุกเร้าอารมณ์รักขึ้นมาอีกครั้งอย่างรวดเร็วด้วยริมฝีปากแสนช่ำชองที่ทำให้ร่างทั้งร่างละลายอ่อนยวบคาอ้อมกอด

            ฮันคยองลูบไล้ไปทั่วผิวกายนุ่มละมุน หอมกรุ่นที่เขาหลงใหลอย่างโงหัวไม่ขึ้น แล้วผละออกอย่างเชื่องช้า มองใบหน้าสวยจัดที่นัยน์ตาเรียวรีกำลังฉ่ำหวานเสียเหลือเกิน ริมฝีปากก็บวมแดง น้ำหยดใสเอ่อคลอด้วยความสุขสมที่ผ่านพ้นไปแล้วรอบแรก ก่อนจะประคองแก้มนิ่มเอาไว้อย่างเบามือ

            “อึ้ก...ฮยอกจี้...ผมกับไอ้ของ... ของเล่นเฮงซวยนั่นอะไรที่คุณชอบ...ตอบ!    ฮันคยองที่กำลังอยู่ในอารมณ์ที่ปริ่มขอบความต้องการเอ่ยปากถามเสียงหนัก นัยน์ตาคมจ้องนิ่งเข้าไปในดวงตาที่แสนเซ็กซี่ จนคนมองใจสั่นระรัว

            “คุณ...อึ้ก...ฮยอกจี้...อ้ะๆ...ชอบคุณ...ชอบคุณคนเดียว!” ฮยอกแจร้องเสียงสั่นพร่า สลับกับหอบหายใจแรงจนหน้าแดงก่ำ

            “อึ้ก...ผมเกลียดมัน...อาห์...” คนที่กำลังควบขี่อยู่บนเรือนร่างแสนสวยกัดฟันแน่น ขณะที่เอ่ยออกมา

            “...สัญญากับผม...อึ้ก...จะไม่ยุ่งกับมันให้ผมหึงอีก...” ฮยอกแจมองใบหน้า     คมคายแล้วกดหน้าลงตอบรับแทบไม่ทัน

            “อื้อ...อ๊า...ฮยอกจี้จะ...ไม่เล่น...แล้ว” ฮยอกแจตอบรับเสียงสั่น ยอมรับคำสั่งของผู้ชายตรงหน้าอย่างหมดใจ ซึ่งคนขี้หึงก็เอ่ยต่อทันที

            “ห้ามยั่ว...ไอ้สัตว์นรกข้างล่างด้วย...อึ้ก...สัญญากับผม” ฮันคยองถามเสียงกร้าว จ้องนิ่งเข้าไปในดวงตาคู่สวย หากแต่เสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจกลับฉายชัดถึงความขอร้อง อ้อนวอนจนคนฟังใจกระตุก ใบหน้าสวยที่แดงจัดจ้ากดหน้าลงเร็วๆ จนเส้นผมนุ่มสะบัดไปตามหมอนใบใหญ่ทันที

            “ฮยอกจี้...สะ...สัญญา...จะ...ยั่ว..แค่ฮันนี่..อ้ะๆ...คนเดียว” ฮยอกแจตอบรับทันที หากแต่ความรู้สึกในใจมีมากกว่าคำตอบที่ให้ไป

            ฮยอกจี้จะไม่เล่นกับของเล่นบ้านั่นอีกแล้ว ไม่ใช่เพียงเพราะลีลาแสนเร้าใจของฮันคยองที่ทำให้เขาไปถึงสวรรค์อย่างสุดยอดที่สุดเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะใจดวงนี้...ชอบ...รักชายหนุ่มไปแล้วต่างหาก

            ฮยอกจี้คนนี้จะไม่ยั่วให้ใครคลั่งอีกแล้ว ยกเว้น...ผู้ชายตรงหน้าคนเดียว

            พรึ่บ

            สิ้นคำตอบรับของร่างเล็ก มือใหญ่ก็เอื้อมไปกระตุกผ้าเช็ดหน้าที่ผูกมัดข้อมือเล็กออกไปอย่างรวดเร็ว ข้อมือที่แดงช้ำเพราะแรงขยับของร่างเล็ก ทำให้ชายหนุ่มยกขึ้นมาพรมจูบไปทั่วอย่างอ่อนโยน นัยน์ตาคมทอดมองร่างเล็กด้านล่างอย่างอบอุ่น จนคนมองแทบละลายคาอ้อมกอด

            “อึ้ก”

            ฮยอกแจส่ายสะบัดหน้าแรงๆ มือเรียวที่เป็นอิสระรีบคว้าคอชายหนุ่มเอาไว้แน่น ใบหน้าสวยจัดซุกซบกับซอกคอแกร่ง ครวญครางชิดริมหูให้ชายหนุ่มฟัง เมื่อท่อนเนื้อร้อนที่ขยับเนิบช้าเมื่อครู่ เริ่มรุนแรงขึ้นอีกครั้ง

            “ผม...อึ้ก...หวง...หึงคุณที่สุดนะฮยอกจี้” เสียงทุ้มกระซิบริมหู ก่อนที่ร่างสูงจะถอดถอนกายอย่างรวดเร็ว แล้วพลิกร่างเล็กให้หันหน้าเข้าหาพนักเตียง ดึงสะโพกมนให้อยู่สูง แล้วสอดแทรกกายเข้าไปอีกครั้ง จนขาเรียวยิ่งแบะกว้างออก

            ฮันคยองส่งมือไปเกาะกุมมือเรียวที่ขยุ้มหมอนใบนุ่มเอาไว้ ริมฝีปากอุ่นร้อนพรมจูบที่แผ่นหลังบอบบางอย่างทั่วถึง ขณะที่กระแทกกายเข้าหาอย่างมีชั้นเชิง จนคนตัวเล็กแทบจะซุกหน้าลงกับหมอนใบนุ่ม

            “เพราะฉะนั้น...อ๊า...เตรียมรับบทลงโทษของคุณได้เลย ผมจะ...อึ้กๆ...กอดคุณไม่ปล่อยเลยล่ะ” ชายหนุ่มบอกเสียงพร่า ขณะที่กอดรั้งเอวเล็กเอาไว้แน่น ขยับมือไปชักรูดแก่นกายเล็กที่อยู่ด้านหน้าด้วยจังหวะเดียวกัน จนทั้งสองสั่นโยกไปตามความร้อนแรงที่เกิดขึ้น

            ฮยอกแจสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วหันใบหน้าเรียวสวยมาสบตากับชายหนุ่ม

            “ถะ...ถ้าเป็นฮันนี่..อึ้ก...ฮยอกจี้...เต็มใจ...อื้อ!!” ทันทีที่สิ้นคำของร่างเล็ก ริมฝีปากร้อนจัดก็ก้มลงไปให้รางวัลแสนหวานแก่คนสวยในอ้อมแขนทันที ฝ่ามือร้อนผ่าวโอบรัดร่างเล็กแน่น ราวกับบอกว่าเขาจะไม่ปล่อยมือจากร่างเล็กอย่างเด็ดขาด

            ริมฝีปากทั้งสองดึงดูดเข้าหากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ร่างกายท่อนล่างก็ขยับเข้าหากันอย่างเร่าร้อนที่ไม่ได้เพียงเกิดจากความต้องการของร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากความต้องการส่วนลึกของ...หัวใจ

            “อ๊าาาา!!” เสียงหวีดหวานดังก้อง ขณะที่ฉีดพ่นน้ำรักสีขาวขุ่นเต็มฝ่ามือของ ฮันคยองอีกครั้ง ขณะที่ชายหนุ่มก็สอดแทรกเข้าไปอย่างหนักหน่วง ก่อนจะปลดปล่อยออกมาครั้งแรกในค่ำคืนนี้

            “ฮึ่มมมมมมม” เสียงคำรามของฮันคยองดังก้อง และแน่นอนว่าจะไม่ได้ดังเพียงแค่ครั้งเดียวอย่างแน่นอน

........................................

            “ฮะ...ฮันนี่ อือ”

            ฮยอกแจร้องเสียงเบาหวิว เมื่อบทลงโทษของชายหนุ่มไม่ได้หยุดที่เตียงนอนหลังใหญ่ที่พวกเขาทดสอบไปแล้วว่าอึ๊บทุกท่าก็ยังไม่ตกจากเตียง เพราะร่างเล็กขึ้นสวรรค์ไปแล้วเสียสี่รอบ ก่อนที่จะถูกชายหนุ่มพามาลงโทษที่ใหม่

            ฮันคยองตาววาววับ มองเรือนร่างขาวผ่องที่นอนทอดกายอยู่บนเคาน์เตอร์สีดำสนิท เรียวขาขาวถูกยกขึ้นดึงชิดกับสะโพกมน นัยน์ตาเรียวรีที่หรี่ปรืออย่างยั่วยวนก็จ้องมองมา จนเขาหัวเราะเสียงพร่า

            “แต่ชอบใช่มั้ย” ชายหนุ่มกระซิบชิดริมหูเล็ก จนฮยอกแจแก้มแดงจัดจ้า หากแต่ไม่อายที่จะกดหน้าลงช้าๆ เมื่อมองแก้วไวน์ที่อยู่ในมือชายหนุ่ม ซึ่งฮันคยองก็กำลังเทรดลงมาตามแผ่นอกบางอย่างที่ทำให้ฮยอกแจที่กำลังจะกลายเป็นแก้วไวน์สั่นสะท้าน

            “อือ...ก็ฮยอกจี้กำลังให้ฮันนี่... ลงโทษนี่นา” ฮยอกแจบอกเสียงแผ่ว แถมยังมีกัดปากยั่ว อ้าเรียวขาออกกว้างยั่วยวนอารมณ์ เสียจนชายหนุ่มต้องก้มลงไปใช้ปลายลิ้นเลียแทบทุกหยาดหยดของแอลกอฮอล์รสเลิศที่ยิ่งอยู่บนผิวเนื้ออ่อนบาง ซึ่งหอมหวานยิ่งกว่าใครคนไหน เวลานี้ฮันคยองรู้สึกมึนเมายิ่งกว่าดื่มเตกิล่าเสียด้วยซ้ำ

            ริมฝีปากชายหนุ่มแตะแต้มไปทั่วเรือนกายขาวผ่อง ดูดรั้งแรงๆ ให้คนถูกลงโทษบิดกายไปมา แถมยังครางเสียงหวานให้ชายหนุ่มชอบใจ แถมยังมียกมือโอบลำคอแกร่งอย่างยั่วเย้าเสียอีกอย่าง

            “ห้ามแล้วนะ...ผมไม่ให้คุณเล่นกับอย่างอื่นนอกจากผมแล้วนะ” ฮันคยองกระซิบชิดริมหูเล็ก แล้วเลียปลายหูเบาๆ จนขนแขนฮยอกแจลุกซู่

            “ฮันนี่อ่า...ฮันนี่ไม่รู้หรือว่า...อ๊า...อย่าเพิ่งขยี้สิ” ฮยอกแจตีไหล่กว้างเบาๆ เมื่อชายหนุ่มบีบคลึงแก่นกายเล็กเล่นเสียอย่างนั้น ใบหน้าสวยสะบัดขึ้นมาสบตาแล้วเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มแสนยั่วที่เหมาะกับดาวยั่วคนนี้เหลือเกิน

            “...ฮยอกจี้ไม่ยอมให้ใครเป็น ผัว ฮยอกจี้นอกจากฮันนี่แล้ว...ก็ใหญ่ถูกใจขนาดนี้นี่ แถมลีลาเด็ดอย่าบอกใครเลย” คนตัวเล็กบอกอย่างแสนซน มือเรียวก็เอื้อมไปคว้าแก่นกายใหญ่มาชักรูด เร่งเร้าอารมณ์ให้ร่างสูงพรั่งพร้อมอีกครั้ง

            ฮันคยองหัวเราะในลำคอ ดึงร่างบอบบางมากอดแนบอก ซุกไซร้ไปตามลำคอระหงแรงๆ ไม่ปล่อยให้คนสวยได้พักมากกว่านี้แล้ว

            “งั้นคืนนี้จะลงโทษ เมีย ทั้งคืนเลย” สิ้นเสียงทุ้ม ริมฝีปากร้อนก็บดจูบลงไปอีกครั้ง เรียกเสียงครางหวานจากร่างเล็กได้อย่างดี ขณะที่คนที่กำลังถูกลงโทษก็แอบยิ้ม มือเรียวกอดคออีกฝ่ายแน่น

            ผัวอย่างนี้เขาไม่ปล่อยให้โง่หรอก ส่วนไอ้ของเล่นบ้านั่นน่ะ รับรองว่าลีฮยอกแจจะรีบกำจัดทิ้งแน่ๆ ก็มันสู้ผัวเขาไม่ได้แม้แต่นิดเดียวน่ะสิ!


.................................................

            ครบค่ะ โจทย์มั่วของเมย์คือมั่วยั่วไปทั่ว กับเล่นกับของเล่นค่ะ ^^

คิดเห็นยังไงบอกกล่าวกันได้ที่


ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ *โค้ง*