วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

The XXX Project แรง ยั่ว มั่ว เซ็กส์ : มั่ว...KiHae BY: Little (NC)

บ้านเดิมจ้า http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=720914&chapter=19


มั่ว


Kim Kibum& Lee Donghae


          “คิดถึงเจ้าลูกหมาจังเลย~ เมื่อไหร่จะถึงวันงานซักทีนะ” ร่างบางนอนกลิ้งไปมาอยู่บนเตียงกว้างหลังจากนึกถึงใบหน้าคมของที่ก้าวเข้ามาจับจองพื้นที่ในหัวใจแค่ไม่ได้เห็นหน้าหล่อๆมาออดอ้อนเพียงไม่กี่วันก็รู้สึกเหงาแบบแปลกๆอย่างที่ไม่เคยเป็น
“จากวินาทีนี้ไป...ลมหายใจของผมจะเป็นของคุณ”
            เสียงทุ้มของประโยคสุดท้ายในซอกซอยเปลี่ยวแห่งนั้นยังคงเรียกรอยยิ้มให้แต้มบนใบหน้าหวานที่ไม่รู้สึกตัวเลยว่าตัวของเขาเองกับลังค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป..มันไม่ใช่คำว่ารักแต่คือสัญญาที่ร่างสูงนั้นให้ไว้ว่าจะอยู่เคียงข้างเขาตลอดไป

          ติ๊ดๆๆ...
            สัญญาณจากเครื่องอินเตอร์โฟนดังขึ้นบอกให้ดงแฮที่นอนคิดอะไรเพลินๆดึงตัวเองกลับมาหันกลับมาสนใจใครบางคนที่มายืนรอเขาอยู่ด้านนอก ขาเรียวสาวไปยังบานประตูก่อนจะเปิดมันออกแล้วส่งยิ้มละมุมให้กับเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่หน้าประตูแล้วดึงมือร่างอวบที่ใบหน้าซีดเซียวเข้ามาด้านในโอบไหล่พยุงไปยังโซฟาที่อยู่ด้านในของห้องนอน
            “ขอโทษที่มากวนนายนะ” ซองมินทิ้งตัวลงบนเบาะนุ่มหรูหราพลางถอนหายใจแสดงสีหน้าเหนื่อยอ่อนจนร่างบางรู้สึกเป็นห่วงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามไถ่
            “ไหวไหม?...” คำถามสั้นๆของดงแฮที่เอ่ยไปนั้นดูท่าคงจะเข้าไปสะกิดบางอย่างในใจของซองมินเข้าอย่างจัง
            “................”
            ไม่รอให้ซองมินตอบแค่มองดูก็รู้ว่าเพื่อนรักของเขาผ่านอะไรมาร่องรอยที่โผล่พ้นเนื้อผ้าและท่าเดินที่ผิดแปลกไปของซองมินตอนที่เขาพยุงเข้ามาก็พอจะเดาได้ว่าเพื่อนรักของเขาต้องเจอกับอะไรและคงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับร่างอวบนัก
            “สีหน้ามินนี่ไม่ดีเลยนะ นอนพักดีกว่ามั้ย? ถ้าไม่อยากกลับห้องจะอยู่ที่นี่ก็ได้นะเดี๋ยวด๊องจะอยู่เป็นเพื่อน...” ดงแฮเอ่ยอีกครั้งเมื่อเห็นว่าซองมินได้แน่นั่งเหม่อนิ่งไม่ยอมพูดจาและยังคงมีสีหน้าที่ครุ่นคิดอย่างหนักร่างบางจึงเงียบรอและไม่ซักไซ้อะไรอีกต่อไป
            “ดีขึ้นแล้ว...” รอยยิ้มเศร้าๆของเพื่อนรักที่ฉายออกมานั้นดงแฮทำได้เพียงแต่ส่งยิ้มตอบรับกลับไปหากซองมินไม่อยากที่จะเล่าเขาเองก็ไม่อยากจะบังคับ
            “งั้นรออยู่ตรงนี้แปปนะเดี๋ยวด๊องมา” ร่างบางลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วสาวเท้าเดินไปยังห้องโถงตรงผ่านไปที่เคาว์เตอร์บาร์หยิบบางสิ่งที่เขาคิดจะนำมาปลอบประโลมอารมณ์ของเพื่อนรักให้ดีขึ้นได้ติดมือกลับมาที่ห้องนอนอีกครั้ง
          แกร๊ก..
            ไวน์แดงชั้นเลิศที่ราคาแพงลิบลิ่วกับแก้วทรงสูงและที่เขี่ยบุหรี่ยี่ห้อหรูที่เขาได้เป็นของกำนัลจากผู้ชายที่มาติดพันถูกยกมาวางลงบนโต๊ะแก้วที่คั่นกลางระหว่างโซฟาทั้งสองด้านที่หันหน้าเข้าหากันก่อนที่ร่างบางจะหย่อนตัวนั่งข้างๆเพื่อนรักแทนฝั่งตรงข้ามแล้วรินไวน์แดงให้กับซองมินและตนเองก่อนจะใช้ขอบแก้วแตะกันเบาๆแล้วยกขึ้นกระดกมันลงคอดื่มทั้งแก้วรวดเดียว
            “หึๆ....” เสียงหัวเราะที่ฟังดูแล้วช่างขมขื่นของซองมินนั้นเหมือนกับเจ้าตัวกำลังมันตอกย้ำซ้ำเดิมตัวเองให้เจ็บปวดและน่าสมเพชยิ่งกว่าเดิมทำให้ร่างบางต้องชวนเพื่อนรักพูดคุยหักเหความสนใจไม่ให้ซองมินจมอยู่กับความคิดที่กำลังบั่นทอนและทำร้ายหัวใจตัวเอง
            “ไม่สบายเค้าให้ดื่มเหล้า...รับรองหาย” ดงแฮพูดติดตลกเอ่ยทฤษฎีมั่วๆออกมาเพื่อเรียกรอยยิ้มของคนที่นั่งซึมซึ่งอย่างน้อยมันก็ทำให้ซองมินหัวเราะออกมาเบาๆแม้จะยังเจือไปด้วยความเศร้าก็ตาม
            “ถ้าอยากเล่าเมื่อไหร่ก็พูดออกมาได้นะ ด๊องไม่เอาไปบอกใครหรอก ^^” เขาเองก็ไม่ใช่พวกที่พูดปลอบใจคนอื่นได้เก่งเท่าไหร่นักสิ่งที่ทำได้ก็คงมีแค่หาอะไรให้เพื่อนรักหรือพูดอะไรให้ซองมินสบายใจถึงจะทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้แต่อยากน้อยก็คงดีกว่านั่งเฉยๆแล้วปล่อยให้ร่างอวบนั่งเอาคำว่าความคิดมาใช้ทำร้ายตัวเอง
            เพราะเขารู้นิสัยของซองมินดี...รู้ว่าเพื่อนรักของเขาคนนี้เป็นพวกที่ชอบเก็บความเจ็บช้ำเอาไว้ข้างในเหมือนกับเขาเมื่อก่อน..ตอนนี้ยังเป็นเพียงแค่ลี ดงแฮผู้อ่อนแอและสิ้นหวัง
            “ขอบใจนะ...” เสียงของร่างอวบเอ่ยบางเบาก่อนที่เขาจะเห็นว่าว่าปรายนิ้วของซองมินนั้นแตะวนไปมาอยู่ที่ขอบของที่เขี่ยบุหรี่ราคาแพงแล้วเงยใบหน้าขึ้นมาสบตาเขาเพียงแค่นั้นดงแฮก็รู้แล้วว่าเพื่อนรักต้องการอะไรจึงเอียงคอส่งยิ้มหวานให้เป็นคำตอบว่าให้ซองมินตามสบาย
            ถ้ารสกุหลาบฟิชชี่ขอด้วยหนึ่งตัวนะฮะ คิกๆ ^^ใบหน้าหวานทำปากจู๋ใส่เพื่อนรักแล้วยกนิ้วขึ้นมาแตะๆถูกๆริมฝีปากของตนเองทำเอาซองมินหลุดขำส่ายหน้าให้กับท่าทางแอ๊บแบ๊วของแม่ปลาตัวร้ายที่พยายามทำท่าทางเลียนแบบนิสัยของเขายามทำงาน
ทั้งที่ตัวเขาคิดว่าเพื่อนรักที่กำลังล้วงมือเข้าไปในกางเกงนั้นคงดึงเอาบุหรี่รสที่เจ้าตัวชอบออกมาแต่สิ่งที่วางอยู่ตรงหน้าเขากลับเป็นห่อฟอยด์สีเงินที่ไม่ต้องเดาก็รู้ทันทีว่ามันคืออะไรแถมแม่กระต่ายอ้วนยังพูดอย่างหน้าชื่นมื่นว่า...
“เอาของฝาก ฮิๆ” เสียด้วย...
            “จุ๊ๆ ทำตัวเป็นเด็กไม่ดีอีกแล้วนะบันนี่” ดงแฮลุกขึ้นยืนกอดอกแล้วใช้นิ้วชี้ส่ายไปมาใส่หน้าของซองมินทำท่าหน้านิ่วแกล้งเอ็ดใส่เพื่อนรัก
            “วันนี้จะมาพาฟิชชี่เสียคนเป็นเพื่อนด้วน นั่งลงสิเร็วเข้าสิ!” ซองมินกระตุกชายเสื้อร่างบางให้นั่งลงตามเดิมเพื่อที่จะได้หาความสนุกกับสิ่งที่เขาเตรียมมาและอยากจะหาเพื่อนร่วมแชร์ความความหรรษานี้ด้วยกัน
            “บันนี่เนี่ยไม่ไหวเลย ชอบพาฟิชชี่ทำอะไรก็ไม่รู้อยู่เรื่อยนิสัยไม่ดีเลยนะ” ยังคงสวมบทเลียนแบบบุคลิกของเพื่อนรักทั้งที่ตอนนี้ตัวเองรีบเดินไปหยิบอุปกรณ์ลักษณะเป็นกระบอกยาวสูงสองชิ้นที่เก็บซ่อนเอาไว้ใต้เตียงและไม่ได้ใช้มานานออกมาปัดฝุ่นเพื่อใช้คู่กับสิ่งที่ร่างอวบเตรียมเฉพาะ
            “พี่มินนี่ทำให้ดูก่อนสิฮะ ฟิชชี่ไร้เดียงสานะทำอะไรแบบนี้ไม่เป็นหรอก ครั้งแรกเลยนะฮะเนี่ย~” มือบางถูกยกขึ้นมาวางใต้คางก่อนจะเอียงคอทำตาแบ๊วใส่เพื่อนรักที่นั่งหัวเราะสั่นกับท่าทางที่ราวกับถอดแบบตัวของเขายามทำงานออกมาจนเหมือนมีตัวเองอีกคนมานั่งอยู่ด้วยกัน
            “งั้นคอยดูละกันเดี๋ยวพี่จะสอนให้เองนะน้องรัก^^  ร่างอวบกางแผ่นฟอยด์ออกแล้วใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งหนีบเศษผงสีขาวใส่ลงในกระบอกที่กลางลำถูกเจาะเพื่อใส่ท่อเล็กให้ยื่นออกมาแล้วใช้ไฟแช็คที่พกติดตัวจุดเข้าที่ใบสีเขียวคล้ำที่แห้งกรอบที่ถูกฉีกออกเป็นชิ้นเล็กๆก่อนจะโยนมันลงไปในกระบอกเดียวกันกับเมื่อซักครู่แล้วจัดการปิดฝาให้สนิทเพื่อให้มันถูกเผาไปพร้อมกับผงที่นอนรออยู่ที่ก้นตูดแล้วส่งมันให้กับดงแฮที่ยื่นมือมารอรับอย่างรวดเร็ว
            “แหม~อะไรกันเอ่ยฟิชชี่ไม่รู้เลย อยากลองซะแล้วสิ คิกๆ^^
            “อัดมันเข้าไปเลยน้องรักอย่าชักช้า”
            ซื๊ด.....
            ริมฝีปากเล็กทั้งสองครอบไปยังท่อที่ยื่นออกมาก่อนจะสูดเอาควันที่เริ่มลอยออกจากส่วนปรายจางๆเข้าไปเต็มปอดแล้วพ่นมันสู่ชั้นบรรยากาศครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนที่ดงแฮจะเอ่ยชวนร่างอวบให้ลองบางสิ่งที่ตนเก็บเอาไว้มานานแต่ยังไม่ได้ใช้มันเสียที
            “ลองนี่ดู...” มือบางโยนมันขึ้นให้อีกฝ่ายที่นั่งมองได้เห็นว่ามันคืออะไรก่อนจะใช้มือตวัดรับมันไว้แล้วจัดการใช้มันทันที
            ชี๊บ...~’
            มือบางบีบของเหลวใสที่เหนียวหนืดลงไปบนโต๊ะแก้ว ใช้ปรายนิ้วเกลี่ยให้มันเป็นวงกว้างก่อนจะส่งหลอดพลาสติกเล็กๆให้ซองมินแล้วสาธิตวิธีลิ้มลองให้ร่างอวบดูเป็นตัวอย่างซึ่งมันก็ไม่ได้ต่างอะไรมากนักกับสิ่งที่ทำเมื่อสักครู่แค่สูดมันเข้าไปคนละทาง
            “ยกมันเหนือพื้นนิดนึงแล้วสูดมันขึ้นไปแบบนี้นะ” ปรายจมูกของร่างบางแตะเข้าที่ต้นหลอดแล้วสูดเอาสิ่งที่กำลังระเหยขึ้นมาเข้าไปในร่างกายซึ่งซองมินเองก็ทำตามที่เพื่อนรักแนะนำและมันก็ทำให้เขายิ่งเพลิดเพลินมากขึ้นกว่าเก่าเพราะเจ้านี่มันให้ความรู้สึกดีทีเดียวยิ่งสูดยิ่งรู้สึกว่าร่างกายมันเย็นวูบวาบและไม่นานก็ร้อนรุมจนอยากจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าที่สวมใส่ทิ้งไปเสีย
            เวลาอัพยาแบบนี้กับพวกคอเดียวกันมันทั้งสนุกและมีแต่ของที่ถึงใจ หรรษาเสียจนเลิกไม่ได้เลยจริงๆ!
            “ไม่ได้เล่นแบบนี้นานแล้วเหมือนกันนะรู้สึกดีชะมัดเลย อาห์~” ตาสวยปรือฉ่ำล่องลอยตอนนี้สติของดงแฮถูกสารพัดสิ่งเสพติดที่วางกองเกลื่อนกลาดอยู่บนโต๊ะเล่นงานจนมันเริ่มลดน้อยลงก็คงไม่ต่างอะไรกับซองมินที่กำลังนอนบิดตัวไปมาอยู่บนข้างๆเขาในตอนนี้
            “ร้อนจังเลยด๊อง ครั่นเนื้อครั่นตัวไปหมดแล้ว...” ดวงตากลมไร้จุดโฟกัสปากเรียวเล็กเพ้อออกมาเป็นระยะก่อนจะชันตัวเคลื่อนเข้าหาร่างบางแล้วดึงเพื่อนรักเข้ามาจูบบดเบียดสอดลิ้นกันรุกไล่กันอย่างร้อนแรง
            “อื้อ~~” สองเสียงหวานประสานครางในลำคอมือสองคู่สี่ข้างของคนทั้งสองผลัดกันลูบไล้กายอีกฝ่ายไปมาท่ามกลางควันสีหม่นที่ลอยคละคลุ้งเต็มห้องกว้างและกำลังพรากเอาคำว่าสติออกไปจากคนทั้งคู่
            ดงแฮผละริมฝีปากออกก่อนจะไล่ไซ้ซอกคอของเพื่อนรักที่ล้วงมือเข้ามาบดบี้ยอดอกของเขาสองร่างที่โดนฤทธิ์ยาเข้าครอบงำเบียดเสียดสีร่างกายนัวเนียคลอเคลียกันเองเพื่อระบายความร้อนรุ่มโดยที่ไม่รู้ว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าผู้ที่ไม่ได้รับเชิญอีกสองชีวิตที่อยู่ด้านล่างของตึกนั้นจะเข้ามาพบกันสภาพที่แทบจะได้เสียของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนรักกันช
            และทำให้ดงแฮต้องสูญเสียสิ่งสำคัญ...คนสำคัญที่เขาไม่อยากให้จากเขาไป

            “มึงมันเหี้ย”  ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าไอ้เพื่อนรักเพื่อนเลวที่ทำอะไรไม่รู้จักคิดอย่างคยูฮยอนที่ขับรถทำหน้าบูดหน้าบึ้งเหมือนชีวิตนี้มีแต่ปัญหารุมเร้า ปกติเขาเองก็ไม่ชอบด่าชอบว่าใครเพราะมันไม่ใช่นิสัยแต่ครั้งนี้ต้องขอซักทีเพราะไอ้นิสัยเสียๆที่แก้ไม่หายของเพื่อนสนิทที่เอาหน้ามาให้เขาด่าถึงที่
            “กูรู้แล้วมึงไม่ต้องย้ำมากก็ได้”
            “จีบยังไงของมึงปล้ำตั้งแต่ทีแรก แถมมึงยังไปฝืนใจเขาแบบนั้นอีกอย่างนี้เขาเรื่องว่าข่มขืนชัดๆให้ตายเถอะ” รู้ว่ามันเป็นพวกเอาแต่ใจสันดานเสียมาแต่ไหนแต่ไรตามนิสัยที่ถูกเลี้ยงมาอย่างเอาอกเอาใจของที่บ้าน  ถึงหลายต่อหลายครั้งมันจะทำเรื่องร้ายๆไปก่อเหตุใส่ชาวบ้านแต่ตัวเขาก็ไม่เคยด่ามันซักครั้งเพราะพูดไปก็เท่านั้นคนอย่างไอ้คยูฮยอนมันเคยสำนึกอะไรที่ไหนกันว่ามันเป็นคนผิด..
            “นี่กูชวนมึงมาเป็นเพื่อนนะครับไอ้คิบอม มึงด่ากูตั้งแต่ออกจากบ้านยันจะถึงแพลตตินั่มแล้วนะครับ! นี่ตั้งแต่มึงได้กับยัยโหดซาดิสต์ดูมึงจะปากมากขึ้นโขเลยนะ” ให้ตายเหอะมันนั่งด่าเขามาทั้งวันตั้งแต่เขาเผลอปริปากบอกเรื่องที่ตัวเองไปทำอะไรแม่บันนี่ดาวอีกคนของแพลตตินั่มพอมันรู้เรื่องนี่ก็ด่ายับเหมือนตัวเขาไปข่มขืนเมียมันยังไงยังงั้น
            “ที่กูด่าเพราะกูเห็นว่ามึงยังมีสามัญสำนึกความเป็นคนอยู่บ้างไงไอ้เพื่อนเวร ที่ผ่านมาเวลามึงไปทำตัวเลวนี่เคยเห็นกูด่ามึงมั้ยครับ?”
            “เออ! กูรู้แล้วเลิกด่ากูซักทีนี่กูก็จะไปขอโทษเขาอยู่นี่ไง! 
            “มึงรู้สึกตัวช้าไปมั้ยครับไอ้คุณเพื่อน? นี่มันผ่านมากี่วันแล้วมึงเพิ่งคิดได้ว่าต้องไปขอโทษเขา มึงนี่โคตรเลวเลย! มึงรีบขับเลยจะเหยียบให้มิดกูก็ไม่ด่ามึงหรอกถ้าเกิดเขาใจเสาะฆ่าตัวตายขึ้นมามึงได้รู้สึกผิดไปตลอดชาติแน่ครับไอ้คยูฮยอน !!
            “มึงอย่าพูดให้กูใจเสียได้มั้ยวะ!! บั่นทอนกูจริง!!” คิดถูกรึเปล่าวะกูที่ไปเล่าให้มันฟังแม่ง ด่าจนหูกูแทบดับแต่ละคำที่มึงด่านี่เหมือนกูถูกมีดแทงจนตอนนี้ตัวกูพรุนไปแล้วไอ้เพื่อนทรพี
            “แล้วมึงทิ้งเขาไว้อย่างนั้นน่ะนะ?” คิบอมเอ่ยถามโดยที่หันหน้าไปมองวิวข้างทางเพราะไม่อยากมองหน้าไอ้คยูฮยอนเลยตอนนี้เห็นแล้วโคตรหงุดหงิดทำเอาคนถูกถามชะงักค้างนึกถึงเหตุการณ์ที่เขาทำร้ายร่างอวบเสียจนยับเยิน
“กูพาเขาไปนอนแล้วออกมา...”
            “พูดเหมือนจะดูดีแต่แม่งก็คือฟันแล้วทิ้งนั่นแหละไอ้คยู...” ไม่มีเสียงตอบกลับมาเหมือนอย่างเคยทุกอย่างที่เพื่อนรักพูดนั้นมันถูกต้อง คยูฮยอนได้แต่เหยียบคันเร่งเพื่อมุ่งหน้าไปหาคนที่เขาย่ำยี

            “มึงว่าเขาจะให้อภัยกูมั้ย?...”
ประโยคแรกที่หลุดออกจากเพื่อนรักทันทีที่ก้าวเข้ามายังด้านในของตึกแพลตตินั่มหลังจากที่มันเอาพี่คังอินมาอ้างพร้อมเหตุผลที่เขาคิดว่ามันคงด้นสดไม่มีการคิดอะไรล่วงหน้ากับพนักงานฝึกหัดที่เข้ามาขวางพวกเขาไม่ยอมให้ผ่านเข้ามาในตอนแรกเพราะมันยังไม่ถึงเวลาที่ทาง X- Club จะเปิดให้บริการ
“กูตอบมึงแทนเจ้าไม่ได้หรอกครับไอ้คยู มึงต้องไปถามเขาเอาเอง” คิบอมตอบเสียงเรียบนิ่ง มันพูดไม่ได้หรอกเรื่องแบบนี้เพราะความรู้สึกของคนเรามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเกินกว่าจะมาตอบแทนเจ้าตัวได้ มือหนาตบเบาๆเข้าที่ไหล่ของเพื่อนรักเพื่อให้กำลังใจเพราะเขาเองก็คงช่วยอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ใครก่อคนนั้นต้องแก้ ถึงคยูฮยอนมันจะมุทะลุยังไงแต่ก็ไม่ใช่คนเลวร้ายไร้สำนึกไปซะทีเดียวที่มันเป็นแบบนี้ก็ด้วยนิสัยที่ยังไม่ยอมโตของมันด้วยนั่นล่ะ
สองหนุ่มก้าวเข้าไปในตัวลิฟต์ที่ประตูเปิดอ้าออกก่อนที่นิ้วของคยูฮยอนที่ตั้งท่าจะกดตัวเลขระบุชั้นขนแผงเหล็กต้องชะงักค้างเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเขาไม่รู้ว่าบันนี่นั้นอยู่ชั้นไหนเพราะตอนที่มาที่นี่ก็มีคนนำทางให้แถมขากลับออกมาจากห้องของบันนี่เขาก็ไม่ได้สนใจด้วยว่ามันอยู่ส่วนไหนชั้นไหนของตึก
            “มึงไปหาบันนี่เป็นเพื่อนกูก่อนนะ..มึงรู้มั้ยว่าเขาอยู่ชั้นไหน”
            “ทำไมกูต้องไปเป็นเพื่อนมึง? คนที่ต้องไปขอโทษเขาคือมึงไม่ใช่กูนะครับ” จะมาขอโทษเขามึงยังไม่รู้นี่มึงปล้ำเขาเสร็จก็หลับหูหลับตาเดินออกมาเลยรึไงวะ?
            “กู...ไม่กล้าไปเจอเขาคนเดียว...”
            “ที่ไอ้เรื่องที่สมควรทำมึงไม่กล้าที่เรื่องหมาๆมึงลุยไปตายเอาดาบหน้าตลอด ที่ตอนมึงข่มขืนเขามึงยังหน้าด้านทำแล้วทีตอนนี้มาทำใจเสาะ ไอ้คุณชายสันดานเสีย!
            “เออ! จะด่าอะไรก็ด่ามาเลยแต่ไปเพื่อนกูก่อนมึงแค่ยืนเฉยๆก็ได้เดี๋ยวกูเคลียร์เรื่องของกูเอง”  
            “ไม่! ไปชั้นกูก่อน!  มึงรู้เหรอบันนี่อยู่ชั้นไหน ไหนมึงบอกมึงไม่รู้ไงแต่กูรู้ว่าฟิชชี่อยู่ชั้นไหน เพราะงั้นไปชั้น 9 ก่อน” เห็นนิ้วมันยกค้างไม่กดปุ่มสักทีคิบอมเลยจัดการกดชั้นที่ต้องไม่สนใจเสียงบ่นของไอ้เพื่อนรักที่พึมพำตลอดทาง
            “แล้วมึงนัดฟิชชี่ไว้รึไง?”
            “เปล่า...กูกะมาเซอไพรซ์...” เจริญ! มึงพากูมาตายรึเปล่าวะไอ้คิบอม เกิดแม่สวยโหดของมึงไม่พอใจที่อยู่ๆก็พากันโผล่มาโมโหเลือดขึ้นหน้าจับกูรัดคอแบบไอ้อ้วนที่โดนในงานปาร์ตี้คราวก่อนจนลงไปชักตาเหลือกกับพื้นกูจะโทษมึงที่ทำให้กูไม่ได้ไปขอโทษบันนี่คอยดู!
            “มึงอย่าพูดเหมือนฟิชชี่เป็นพวกโรคจิตได้มั้ยวะ? กูไม่ชอบ..”
            “ไม่เหมือนแต่มันใช่เลยล่ะครับไอ้คุณคิบอม มึงมันก็พอกันนั่นล่ะ!” ขอด่ามันคืนบ้างแล้วกันคบกันมาตั้งหลายปีมันปิดเรื่องที่เป็นพวกแอบจิตซะเนียนสนิท เพิ่งจะรู้ก็วันนี้ที่ไปรับมันที่บ้านแล้วเห็นแผลตามตัวมันนั่นล่ะพอถามว่าไปทำอะไรมามันก็ยิ้มหน้าบานตอบแบบโคตรภูมิใจว่าโดนยัยสวยโหดนั่นจับขึงพรืดแถมถูกใจมันสุดๆ...เพื่อนผมแม่งโคตรร้ายแรง!!

เก๊าะๆ...
            สองหนุ่มหยุดยืนอยู่หน้าบานประตูสีทองก่อนที่คิบอมจะใช้หลังมือเคาะลงไปเมื่อกดอินเตอร์โฟนหลายครั้งแต่ไม่มีปฏิกิริยาของคนด้านในทั้งที่คิดว่าเจ้าตัวคงไม่น่าจะออกไปไหนตอบกลับมาหรือดงแฮจะอยู่ในห้องลับ
            “เคาะไม่ตอบก็พังแม่งเข้าไปป่ะ...” คิบอมเหล่หางตาใส่เพื่อนรักแทนการด่าเป็นคำพูดนี่มึงเอาอะไรคิด ? ประตูมหึมาขนาดนี้เอาผู้ชายมาวิ่งชนสิบคนแม่งไม่สะเทือนเลยไอ้ห่า...ฉลาดไม่ถูกเรื่องจริงๆ
แกร๊ก..
ตาคมดึงกลับมาสนใจที่ประตูอีกครั้งก่อนจะลองเอื้อมมือไปจับที่ลูกบิดประตูแล้วขยับมันเบาๆก็พบว่ามันไม่ได้ล๊อคไว้จึงขมวดคิ้วน้อยๆ  ถือวิสาสะดันมันให้เปิดออกแล้วเดินเข้าไปด้านในปล่อยให้ทำหน้าเบื่อโลกเดินตามหลังมาติดๆเพราะดูชีวิตของไอ้เพื่อนรักมันจะราบรื่นไปหมดแต่ดูแล้วสิ่งที่คยูฮยอนคิดนั้นมันผิดถนัดเมื่อจมูกที่ค่อยข้างดีกว่าชาวบ้านได้กลิ่นบางอย่างที่ทำให้เขาสังหรณ์ใจพิกลตามมาด้วยเสียงที่คุ้นหูของใครบางคนที่ดังแววมาไม่ไกล
“คิกๆ....อ๊ะ แบบนั้นล่ะ อ๊า~
“แบบนี้เหรอ? ฮิๆ~” เสียงหวานส่งเสียงหัวเราะมาพร้อมกับเสียงคราง คิบอมรู้ทันทีว่าหนึ่งในนั้นเป็นเสียงของดงแฮและอีกเสียงที่เขาไม่คุ้นหูเลยแม้แต่น้อย สองหนุ่มหยุดฝีเท้าก่อนจะหันมองหน้ากันเพราะมันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีตั้งแต่เข้ามาเห็นควันของอะไรบางอย่างที่ลอยอยู่เต็มห้องราวกับหมอกลงแบบนี้
“ทางนี้ไอ้คิบอม!” คยูฮยอนเมื่อมั่นใจว่าไอ้กลิ่นนี้มันคืออะไรรีบลากเพื่อนรักเดินตรงไปยังต้นทางปล่อยที่กลิ่นฉุนและดวงตาสองคู่ของชายหนุ่มก็สะท้อนภาพของคนสองคนที่กำลังกอดจูบลูบคล้ำกันอย่างสนุกสนาน สองดาวแห่งแพลตตินั่ม บันนี่และฟิชชี่กำลังเล้าโลมกันเอง!
            “...อืม...อือออ...อะ..เสียวจัง~” เสียงของใบหน้าที่หวานไม่แพ้กับดงแฮครางฮือ เมื่อร่างบางก้มลงใช้ลิ้นเลียบนยอดอกที่แอ่นเชิดขึ้นเพราะความเสียวซ่านส่ายหน้าออกบิดไปมาเมื่อถูกมือบางเค้นคลึง...ซองมินกำลังปล่อยให้ดงแฮเล่นสนุกกับร่างกายของเขาเองด้วยความเต็มใจ
“บันนี่ขี้โกงนี่~ให้ฟิชชี่ทำอยู่คนเดียวเลย...” ร่างเหงยหน้ามองเพื่อนรักที่กำลังเคลิ้มไปกับการปลุกเร้าที่ตนทำก่อนตัดพ้ออย่างน้อยอกน้อยใจ เขาเองก็อยากเป็นฝ่ายถูกลูบไล้บ้าง อยากเสียวบ้าง...ให้เล้าโลมน่ะทำแต่แต่ถ้าให้เป็นฝ่ายรุกกระแทกใครนี่มันไม่ใช่แนว
นี่มันอะไรกัน!!!!!’
ยิ่งเห็นดงแฮทำแบบนั้นคิบอมยิ่งรู้สึกเหมือนถูกค้อนใหญ่ทุบเข้าที่หัวอย่างจังใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มก่อนที่จะเข้ามาในห้องนี้นั้นเปลี่ยนเป็นตึงเครียดทันทีเมื่อความหึงหวงและความโกธรกำลังเข้าครอบงำ
“...อื้มมม...ไหนๆบันนี่ก็ชอบชวนฟิชชี่ทำอะไรแปลกๆบ่อยๆ...คราวนี้ฟิชชี่จะชวนบันนี่บ้างนะ...คิคิ”  ร่างปากผละตัวออกจากเพื่อนสนิทก่อนจะเป็นฝ่ายนอนทอดกายให้ซองมินเล้าโลมตนเองกลับคืนโอบโน้มเพื่อนรักลงมาแลกลิ้นบดบิดเรียวปากกันและกันก่อนที่ร่างอวบจะก้มลงดูดเม้นยอดปทุมอมชมพูของดงแฮที่ตั้งชันเพราะตัวเขากำลังอารมณ์ที่เตลิดจนกู่ไม่กลับ

มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งยามที่เขาได้อัพยา ฤทธิ์ของมันพาร่างกายให้เกิดความต้องการและไม่มีสติที่จะยับยั้งชั่งใจอยากที่จะมีเซ็กส์กับคนที่อยู่ใกล้ๆหากมีคนที่นั่งอยู่ด้วยกัน ณ ตอนนั้นแม้จะเพื่อนหรือคนรู้จักยามที่เสียการควบคุมตัวเองเขาก็ไม่อาจแยกแยะหรือหักห้ามใจดงแฮจึงเลิกที่จะข้องแวะกับมันมาได้พักใหญ่เพราะเขากลัวว่าซักวันคงได้เสียความบริสุทธิ์ไปแบบไม่รู้ตัวซึ่งเขาไม่อยากให้เป็นแบบนั้น
“ฉันอึดอัดจัง ~ มันปวดไปหมดแล้ว” มือบางล้วงลงไปลูบคลำแก่นกายของตนเองที่เริ่มขยับขยายไม่ต่างกับซองมินเองที่ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน สองกายเคลื่อนเข้าหาแทรกตัวเข้ากลางหว่างขาออกอีกฝ่ายช้าๆ
“อื้ออ โอย...อาห์...อึ้ก...มา..สิ ชั้นช่วย..นะ...” เสียงสั่นๆของเพื่อนรักเอ่ยขึ้นก่อนที่ต่างฝ่ายต่างใช้มือของตัวเองปรนเปรอส่วนอ่อนไหวให้กันและกันจนเสียงครางทั้งสองดังลั่นระงมก้องไปทั่วทั้งห้องกว้างยิ่งกระตุ้นไฟโทสะของสองร่างที่ยืนมองฉากคลอเคลียของทั้งสองให้ลุกโหมโดยเฉพาะใบหน้าคมจับจ้องฉากสวาทที่ร่างบางของเขากำลังเป็นฝ่ายดึงอีกคนเข้ามาแลกจูบดูดดื่มส่งเสียงคิกคักถูกอกถูกใจ
จ๊วบ..
“คิกๆ ซองมินก็จูบเก่งเหมือนกันน้า~เหมือนเจ้าลูกหมาของฉันเลย อาห์~” สะโพกมนขยับเขยื้อนไปตามจังหวะมือ ดวงตาหวานฉ่ำปรือมองล่องลอยเพราะฤทธิ์ยาจนไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนที่กำลังยืนมองอยู่ไม่ไกล 
“ทำอะไรกันน่ะ!!
เจ้าของแววตาสีนิลคมกร้าวตะเบ็งเสียงดังสนั่นและเยือกเย็นจนคยูฮยอนยังรู้สึกผวาขนาดคบกันมานานยังไม่เคยเห็นมันเดือดดาลขนาดนี้เลยสักครั้ง ทั้งที่มันดังก้องกังวานจนถูกสะท้อนกลับมาแต่ดงแฮก็ยังคงไม่หยุดมือที่ลูบไล้แก่นกายของซองมินผิดกับใบหน้ากลมที่กำลังหันมองมาทางเขาแล้วขมวดคิ้วบางๆ ราวกับอยากจะถามว่าเขาเป็นใคร..
 “อ้าว? คิบอมเหรอ? อย่าเสียงดังสิไม่เห็นรึไงว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ คิกๆ ^^” คนที่ยังไม่มีสติยังคงรื่นระเริงกับสิ่งทำ ดงแฮรู้สึกว่าภาพตรงหน้าและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเหมือนอยู่ในความฝันคิดว่าร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขานั้นเป็นเพียงแค่ภาพหลอนที่เกิดจากความคิดถึง
“มานี่สิคิบอม ~ มาสนุกด้วยกันมั้ย?..” ตาหวานที่ล่องลอยปรายมองไปยังคนที่ยืนหน้าเคร่งเครียดก่อนจะดึงมันกลับไปสนใจเรือนร่างของเพื่อนรักตามเดิม
“หยุดเดี๋ยวนี้นะดงแฮ!
“บอกแล้วไงว่าอย่าเสียงดัง ถ้าไม่อยากก็ยืนดูอยู่ตรงนั้นแหละอย่าเห่าเรี่ยราดให้มันน่ารำคาญไม่งั้นฉันจะเอานายไปทิ้งซะ...”  ใบหน้าของคิบอมรู้สึกชาวาบเจ็บอีกกว่าเคยถูกคนสวยโหดตบจนเป็นแผลเพราะคำพูดของคนที่เอ่ยมันออกมาราวกับเขาเป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยงจริงๆไม่ได้มีอะไรมากมายหรือพิเศษไปกว่าใครทิ้งอย่างนั้นเหรอ
“ยะ หยุดก่อนดงแฮ...”
“อื้ม~ไม่เอาฉันอยากแล้วนี่เอากันเถอะนะบันนี่ ฟิชชี่ยอมอยู่ข้างล่างให้ก่อนก็ได้” เสียงหวานเอ่ยเพ้ออย่างไม่รู้ตัวหรือจะเรียกว่าแม้จะมีสติแต่ก็เลือนรางเต็มทีก็คงได้ มือบางคว้ามือเพื่อนสนิทมาทาบลงบนสะโพกกลมของตัวเองช้อนสายตาปรือเยิ้มใส่เพื่อนรักยั่วยวนให้อีกฝ่ายยอมทำตามคำขอ
พอกันที! หากปล่อยไว้มันคงได้ไปไกลมากกว่านี้!
ร่างสูงตรงเข้ากระชากดงแฮออกจากตัวของซองมินที่ถูกคยูฮยอนลากให้ออกห่างจากร่างบางพร้อมๆกันก่อนจะคร่อมทับคนที่ดิ้นพล่านเหวี่ยงมือทั้งตบทั้งตีเขาเพราะถูกขัดใจ
ตึง!’
“โอ๊ย! ทำบ้าอะไรน่ะมันเจ็บนะ!!
“ลุกออกไปซะ! ฉันบอกให้ลุกออกไปไม่ได้ยินรึไงคิบอม มันจะมากไปแล้วนะ!!” ใบหน้าหวานกราดเกรี้ยวเมื่อถูกคนในปกครองผลักลงไปนอนกับโซฟาอย่างแรงจนหัวเขากระแทกเข้ากับขอบพนักที่วางมืออย่างจัง
“ไม่!!!
“ฉันบอกให้ลุกออกไปไง อยากตายรึไงห๊ะ!!!!” สติของดงแฮเริ่มกลับมาเมื่อความเจ็บที่ศีรษะมันเล่นงานดีดเอาความมึนเมาจากฤทธิ์ยาให้ค่อยๆกระเด็นหายไป ถึงจะยังไม่เต็มที่แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าภาพของเจ้าลูกหมาที่ยืนทำหน้าตึงที่เขาเห็นก่อนหน้านี้นั้นมันไม่ใช่ความฝัน
“ทำไมถึงทำแบบนี้!! คุณไปให้คนอื่นสัมผัสแบบนั้นได้ยังไง ผมไม่ชอบ!! อย่าทำแบบนั้นอีกแล้วก็ห้ามเล่นยาด้วย!!” มือใหญ่วางทาบทับจับขึงข้อมือบางทั้งสองข้างแล้วออกแรงบีบมันจนดงแฮเบ้หน้าเด้วยความเจ็บทั้งที่ตัวเองเป็นคนที่มีเรี่ยวแรงมากกว่าคนทั่วไปแต่ตอนนี้แม้แต่จะสะบัดข้อมือให้หลุดออกจากการเกาะกุมของคิบอมก็ยังทำไม่ได้
“แล้วทำไมฉันจะทำไม่ได้!! นายมีสิทธิ์อะไรมาห้ามฉันคิม คิบอม! นายเป็นแค่สัตว์เลี้ยงเท่านั้นลืมไปแล้วรึไง!!” คำพูดของดงแฮเหมือนเชื้อเพลิงที่สุมไฟแห่งโทสะในใจของคิบอมให้ลุกโชนจนยากที่จะดับ แววตาสีนิลดำสนิทมองใบหน้าหวานที่ส่งเสียงโวยวายอย่างเกรี้ยวกราดยิ่งร่างบางพูดเหมือนเขาเป็นอะไรที่ไม่สำคัญต่อตนเองเลยซักนิดก็ยิ่งหงุดหงิดหัวใจตอนนี้เขาไม่สนเสียงโวยวายของคู่กรณีอีกคนที่ถูกคยูฮยอนลากไปเหวี่ยงลงเตียงกว้างที่อยู่ใกล้ๆ ณ เวลานี้ความโกธรความน้อยใจมันทำให้หูตาอื้ออึงจนไม่เห็นไม่ได้ยินอะไรนอกจากคำกรนและใบหน้าหวานแสดงสีหน้าที่กำลังเดือดดาลไม่แพ้กัน
“เจ็บนะเว้ย! บอกให้ปล่อยไงถ้าฉันหลุดไปได้ฉันเอาแกตายแน่คิม คิบอม!!” ดงแฮที่พอจะจำได้ลางๆว่าก่อนหน้านี้ตัวเองทำอะไรหัวฟัดหัวเหวี่ยงกับสิ่งที่คิบอมทำกับเขาเพราะไม่เคยมีใครกล้ามาตวาดใส่หน้าเขาแบบนี้และไม่มีใครกล้าหือกับเขาแบบนี้ด้วยซ้ำแต่นี่สัตว์เลี้ยงที่เขาคิดว่าเชื่องและเชื่อฟังที่สุดกำลังฉีกหน้าเขาต่อหน้าเพื่อนสนิทและใครอีกคน
“เจ็บงั้นเหรอ? ผมสิที่ต้องพูดคำนั้น!!” ตอนนี้ใจของเขาต่างหากที่เจ็บราวกับถูกแทงด้วยหอกแหลมทั้งที่ไม่อยากจะโกธรแต่ภาพที่ดงแฮไปเคล้าคลอลูบไล้กับคนอื่นไม่อยากทำตัวน้อยใจงี่เง่ากับเรื่องบ้าๆรู้ว่าเป็นเพราะยาดงแฮถึงได้ทำแบบนั้น
ฉันสัญญาว่าคนที่ได้สัมผัสฉันจะมีแค่นายคนเดียว..คิม คิบอมพ่อหมาน้อยที่น่ารักของฉัน..  แต่ทั้งที่เคยสัญญาว่าจะไม่ให้ใครแตะต้องร่างกายนี้อีกนอกจากเขาถึงสมองจะรับรู้ว่าร่างบางไม่มีสติแต่..เขาหึง เขาหวง ไม่อยากให้ใครมาแตะต้อง!!
..ตุบ!..’
ตาคมปรายมองร่างของอีกหนึ่งหวานที่ถูกคยูฮยอนเหวี่ยงเข้ากับโซฟาฝั่งตรงข้าม สายตาของเพื่อนที่มองมานั้นเหมือนกำลังบอกให้รู้ว่าอยากให้เขาทำอะไรมือหนาจึงรวบข้อมือของทั้งสองข้างคนร่างบางไว้เหนือหัวแล้วก้มลงซุกไซ้คนใต้ร่างต่อหน้าต่อตาอีกสองชีวิตที่อยู่ไม่ห่างกัน ตาสวยเบิกกว้างเมื่อถูกสัตว์เลี้ยงแว้งกัดด้วยการเล้าโลมเขาต่อหน้าเพื่อนรัก ปากเรียวที่พ่นคำด่าทอถูกปิดผนึกด้วยจูบที่เต็มไปด้วยโทสะของคนที่กำลังสอดมือเข้ามือบดบีบตุ่มไตทั้งสองและบดบี้มันอย่างรุนแรง
นี่เขากำลังโดนคิบอมเล่นงานทั้งต่อหน้าต่อตาซองมินที่ส่งเสียงร้องน้ำตานองเต็มใบหน้าเพราะกำลังตกอยู่ในสภาพเดียวกัน
            ร่างสูงปลุกปล้ำถอดเสื้อของร่างบางออกให้พ้นทางแล้วตะบบมือเข้าที่แกนกลางลำตัวของร่างบางที่ตั้งชันจนดงแฮต้องร้องออกมาเพราะถูกมือหนาบีบรัดจนปวดเสียด
            “โอ๊ย! หยุดนะคิบอม ฉันเจ็บ!! ฮึก!
            “มันเสี้ยนมากใช่มั้ยครับฟิชชี่...อยากมากจนถึงขนาดต้องไประบายกับเพื่อนตัวเองแบบนั้นน่ะ!
            “ใช่!! มันเรื่องของฉันนายเป็นแค่เลี้ยงไม่มีสิทธิ์มาทำกับฉันแบบนี้ เป็นแค่หมาก็ทำตัวให้สมกับเป็นหมาอย่าสะเออะทำเกินหน้าที่!!
          แปลบ....
            หัวใจของคิบอมเหมือนถูกมีดแทงซ้ำ ถึงแม้จะเคยถูกร่างบางเรียกเป็นสัตว์เลี้ยงแต่ไม่รู้สึกน้อยใจเท่ากับในคราวนี้ ทั้งที่เขาไม่อยากจะทำร้ายหักหาญน้ำใจของดงแฮคนที่เขารักแม้แต่จะคิดเขาก็ไม่เคยเลยสักครั้ง แต่คนที่เขาให้ความสำคัญกลับไม่เคยแคร์ความรู้สึกของเขาเลยแม้แต่น้อยหรือการที่เขาได้อยู่ใกล้ชิดร่างบางมันจะเป็นเพียงแค่ความหลงใหลที่ดงแฮมีให้เพียงชั่วคราวเท่านั้น
            “งั้นหมาตัวนี้จะสอนให้เจ้านายมันรู้ว่าเวลามันโมโหก็กัดมือเจ้าของของมันได้เหมือนกัน”
            “อะ โอ๊ย...อึก! ยะ....อื้อ หยุดนะ!! อ๊าาาา~” อาจจะเป็นเพราะพิษของยาที่ยังคงหลงเหลือมันเลยเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาหลุดจากพันธนาการของร่างสูงไม่ได้ ร่างบางกระตุกเกร็งเมื่อช่วงขาถูกแทรกกลางด้วยเข่าของผู้ชายที่เชื่อฟังตนเองมาโดยตลอดและมือหนาที่ชักรูดแก่นกายของเขาอย่างรุนแรงไร้ความอ่อนโยนเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
ดวงตาสวยเหลือบมองเพื่อนรักที่จ้องมองหน้าขึ้นสีมาทางเขาและถูกร่างสูงที่เขาไม่รู้จักรังแกจนมีน้ำตาเห็นแบบนั้นก็อยากที่จะลุกขึ้นไปช่วยแต่ตอนนี้แม้แต่ตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเขาไม่ได้เขินอายที่กำลังต้องเล่นหนังสดให้เพื่อนดูแต่มันรู้สึกเสียศักดิ์ศรีเพราะโดนคนในปกครองลุกขึ้นมาต่อต้านและปวดแปลบที่หัวใจกับการกระทำของคิบอมที่กำลังฉีกหน้าเขา แม้จะกำลังปรนเปรอร่างกายแต่กลับไร้ความอบอุ่นเหมือนที่ผ่านมามีแต่เพียงความเย็นชาและสัมผัสที่ไร้ความรู้สึกรักจนเขาไม่อยากให้แตะต้องแต่ร่างกายกลับอ่อนเปลี้ยขัดขืนไม่ได้
          เพราะหัวใจมันสั่งยอม...ดงแฮรู้สึกเพียงเท่านั้น ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนโดนร่างสูงหักหาญความเชื่อใจที่เขามีให้จนหมดสิ้น...คนที่เขามั่นใจว่าจะไม่มีวันทำร้ายเขากลับกำลังทำให้เขาจมลงกับความรู้สึกมืดมนที่เคยโยนทิ้งไปเมื่อวันวาน ด้วยการทำลายความเชื่อใจว่าร่างสูงจะไม่มีวันทำร้ายตนเอง

            คิบอมที่โดนอารมณ์โทสะและความน้อยใจเข้าเล่นงานจับร่างบางกำลังอ่อนระทวยให้ลุกขึ้นนั่งซ้อนอยู่ด้านหน้าใช้แขนล๊อคไว้ลำตัวจนแผ่นหลังชิดติดแผงอกของตนเองบังคับให้เขาหันมองภาพของเพื่อนรักที่อยู่ในสภาพเดียวกันราวกับเป็นภาพที่สะท้อนจากกระจก ปรายเท้าของร่างสูงสอดเข้ามาคล้องกับข้อเท้าของตนก่อนที่เรียวขาจะถูกแรงดึงบังคับให้อ้าออกเผยทุกสัดส่วนให้ทั้งคยูฮยอนและซองมินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามได้เห็นชัดๆ
“นัวเนียกันนักก็มองกันไปให้พอ!!!” ประโยคนี้ดังขึ้นในใจของสองหนุ่มพร้อมกัน..ต้องสั่นสอนให้รู้เอาคืนให้เข็ดจนไม่กล้าทำอะไรแบบนี้อีกเป็นครั้งที่สอง!
“อ๊ะ ~ อื้อออ....” บั้นท้ายกลมมนหดเกร็งเมื่อสัมผัสได้ถึงส่วนใหญ่โตของคนที่กำลังขบเม้มหัวไหล่ของเขาฝากรอยอารมณ์ทิ้งไว้เป็นรอยจูบที่ถูกดูดอย่างรุนแรงจนมันเป็นสีเขียวคล้ำแทนสีแดงสด
“ในเมื่ออยากแล้วก็โชว์มันตรงนี้ก็แล้วกันคุณฟิชชี่ โชว์ให้เพื่อนคุณเห็นไงคุณชอบอยู่แล้วนี่!! ไม่แคร์อยู่แล้วนี่ครับว่าจะเอากับใครถ้างั้นหมาตัวนี้ของคุณจะทำให้คุณหายอยากหายเสี้ยนก็แล้วกัน!!” ทั้งรักทั้งเจ็บ...คำพูดที่ไร้เยื่อใยของคิบอมกำลังกรีดหัวใจของเขาให้เป็นแผลกว้างก็คงไม่ต่างอะไรกับใบหน้าคมที่เจ็บปวดกับคำพูดของคนที่เขากำลังทำร้ายที่พูดใส่เขาก่อนหน้านี้..
สวบ
“อ๊า!! ฮึก! อย่านะคิบอม!!” เสียงหวานหวีดร้องเมื่อนิ้วทั้งสามถูกสอดเข้ามาในช่องทางพร้อมกันจนสุดความยาวเต็มแรงดันไม่มีความโอนอ่อนใดๆ ทั้งที่ไม่ชอบไม่อยากถูกสัมผัสแต่ร่างกายกับไม่ยอมเชื่อฟังสะโพกมนขยับขึ้นลงไปตามจังหวะที่ถูกคิบอมปรนเปรอให้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังด้วยความเคยชิน
ฟึบๆๆๆ
มือหนาสาวแก่นกายของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วไปพร้อมๆกับชักนิ้วที่ฝังอยู่ในตัวอีกคนจนร่างบางต้องจิกเล็บเข้ากับต้นขาแกร่งเพื่อใช้เป็นที่ยึดเหนี่ยวระบายความสุขระคนทุกข์ครั้งนี้ปล่อยให้อารมณ์ที่พลุกพล่านอยากปลดปล่อยยอมให้คิบอมทำตามอำเภอใจโดยไม่ขัดขืนได้แต่หลับตาลงเพราะไม่อยากมองใบหน้าของเพื่อนรักที่กำลังเจิ่งนองไปด้วยน้ำตาและไม่อยากฟังเสียงโต้เถียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของซองมินที่เขาช่วยอะไรไม่ได้เลย
“หลับตาทำละครับคุณฟิชชี่? มองดูสิครับคนที่คุณหันไปหาความสุขกับเขาแทนผมน่ะ” ด่าว่าคยูฮยอนว่าเลวทรามตอนนี้ตัวเขาเองก็ไม่ต่างกัน...ทั้งที่รู้แต่ก็หยุดความโกธรที่เหมือนกับไฟลามทุ่งนี้ไม่ได้
“ไม่จำเป็น!! เพราะฉันรู้ดีว่าเวลาซองมินมีอารมณ์เขาทำหน้ายังไง อื้อ~” ต่างคนต่างสาดอารมณ์ใส่กันคำพูดของร่างบางทำเอาคิบอมควันออกหู
“หยุดพูดแบบนั้นซะทีลีดงแฮ !!
“ทำไม?! มันรับไม่ได้รึไง!! ฉันกลับซองมินเคยทำอะไรกันมากกว่าที่นายกับเพื่อนของนายเห็นวันนี้ด้วยซ้ำแล้วก็ไม่ใช่แค่ซองมินด้วย!! เข้าใจอะไรผิดไปแล้วมั้งถ้าคิดว่าคนอย่างฟิชชี่ดาวแห่งแพลตตินั่มคนนี้จะจมปรักอยู่กับผู้ชายแค่คนเดียว!!
“งั้นก็ดีผมจะได้รู้ว่าผมมันก็เป็นแค่ของเล่นของคุณเท่านั้น ดีครับ!ผมจะได้ไม่จำเป็นต้องถนอมคุณเหมือนที่ผ่านๆมา!!
“แล้วฉันเคยขอให้นายทำแบบนั้นรึไง!!” ไม่มีใครยอมใคร...ต่างคนต่างใช้อารมณ์มากกว่าบดบังความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้แก่กัน ต่างฝ่ายต่างตอบรับรุกเร้าด้วยโทสะ
ปากอิ่มบดเบียดแนบชิดริมฝีปากบางขบดูดกัดไปตามความร้อนของร่างกายที่รุมเร้าดงแฮส่ายสะโพกกดลงไปเสียดสีกับแกนกลางที่ดุดดันอยู่ใต้กางเกงของร่างสูงปล่อยให้ร่างกายตอบสนองด้วยความเคยชินก่อนที่คิบอมจะรูดซิบกางเกงของตัวเองลงแล้วดึงเอาส่วนสำคัญออกมาแทรกผ่านหว่างขาให้โผล่ขึ้นมายังด้านหน้าตั้งเด่นคู่กับของคนในอ้อมกอดเพื่อให้มือบางได้จับมันชักรูดให้ตนเองซึ่งดงแฮก็คว้ามันมาลูบคลำด้วยความคุ้นเคย
สองร่างผลัดกันปรนเปรอจนเสี้ยวนาทีหนึ่งดงแฮแอบเผลอเคลิบเคลิ้มไปกับสิ่งที่ร่างสูงนั้นมอบให้แต่ฐิถิที่มีก็ปัดความรู้สึกเหล่านั้นให้หายไปเหลือเพียงหัวใจที่แตกหักและอารมณ์อยากประชดประชันที่ไม่อยากยอมแพ้ร้องขอให้อีกฝ่ายอ่อนโยนเหมือนกับที่เคยทำ
“ถ้าอยากให้ผมอ่อนโยนด้วยก็ขอร้องผมสิ..” ร่างสูงยื่นข้อเสนอให้ในตอนนี้บทบาทฐานะนั้นสลับกัน...ตอนนี้ดงแฮกำลังเปลี่ยนมาเป็นผู้ถูกทรมาน
“ไม่จำเป็น!! ผู้ชายทุกคนก็รุนแรงกับฉันกันทั้งนั้นนั่นล่ะ!!
คนอย่างลี ดงแฮไม่คนนี้ไม่เคยง้อใครโดยเฉพาะกับคนที่เป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยงที่ทรยศเจ้านายอย่างคิม คิบอม!’
“แล้วเป็นไงครับผมรุนแรงสู้ผู้ชายคนอื่นของคุณได้รึเปล่าครับคุณฟิชชี่!”ยังคงประชดประชัน..คิบอมยังคงโมโหกับคำพูดของร่างบางที่บอกตนว่าเขาไม่ใช่คนแรกที่ได้สัมผัสร่างกายนี้และกำลังโกธรที่ร่างบางพูดยั่วให้เขาเกิดโทสะปั่นหัวเขาเล่นราวกับว่าเขาเป็นเพียงแค่ผู้ชายโง่ๆที่ไม่รู้ว่าร่างบางกำลังโกหก
แค่พูดคำว่า “ไม่ใช่” แค่แก้ตัวกลับมา แค่แสดงให้รู้ว่ารักและแคร์กันบางให้รู้ว่าเขานั้นก็สำคัญบ้างมันยากมากนักรึไง?..
 “อึก!!
ใบหน้าหวานที่ถูกประดับด้วยดวงตาเยิ้มฉ่ำปรือมองคนที่ตอนนี้ค่อนขอดตัวเองเผยอปากส่งเสียงครางเป็นคำตอบแทนคำพูดที่อยากจะด่าสาดใส่ใบหน้าคมที่เย็นชาและจ้องมองเขาด้วยแววตาที่เข่นเขี้ยว
ทั้งที่ผ่านมาเขาไม่เคยให้ใครได้แตะต้องร่างกายนี้เลยซักครั้ง ยกเว้นคนที่กำลังมองเขาด้วยสายตาเย้ยหยันและไล่ต้อนเขาในตอนนี้

สิ่งที่คิบอมกำลังทำนั้นดงแฮคิดว่ามันคือการหักหาญน้ำใจไม่ใช่การสั่งสอนเหมือนที่เจ้าตัวคิด คำพูดสัมผัสมันรุนแรงเย็นชาไร้ความรู้สึกเกินกว่าจะให้อภัยต้องมาโดนกระทำรุกไล่ต่อหน้าคนอื่นแบบนี้มันเหมือนหักหน้าเขาชัดๆ!! ช่วงเวลาที่มีค่าและมีความสุขถูกน้ำตาของร่างบางที่กลั้นมันไว้ไม่ไหลออกมากำลังเอ่อท่วมอยู่ภายในใจทับถมจมหายยากที่จะเรียกคืน มันน่าโมโหตัวเองนักที่รู้สึกดีกับการกระทำอันเย็นชาของคนที่ตนเชื่อใจ...เชื่อว่าว่าจะไม่มีวันทำร้ายกัน
“ฮึก!” ขาเรียวแยกออกกว้างมากขึ้นเอนแผ่นหลังซุกใบหน้ากับต้นแขนของคิบอมหายใจรัวรดลำแขนใหญ่ที่เคยรู้สึกปลอดภัยเวลาแต่บัดนี้กลับเหมือนเส้นเถาวัลย์ที่มีหนามเลื้อยรัดจนเจ็บปวดไปทั่วทั้งกายและหยั่งรากลึกลงไปทำร้ายเขาถึงก้นบึ้งของหัวใจ มือหนาเร่งรัวชักรูดแก่นกายเล็กอย่างรวดเร็วและรุนแรงพร้อมบีบปรายมนย้ำให้ความเสียวว่ากระตุ้นให้ร่างบางเร่งระบายความอึดอัด
“อ๊า!!!!!!!!!!!!!!” เสียงหวานร้องครางลั่นฉีดพ่นของเหลวยาวสีขาวข้นไปถึงโต๊ะแก้วปลดปล่อยให้เพื่อนรักและชายอีกคนเห็นเต็มตากระตุกขาเกร็งซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อปล่อยเอาน้ำกามที่หลั่งออกมามากมายจนเลอะเทอะเป็นวงกว้างก่อนจะนั่งหอบด้วยใบหน้าแดงก่ำ



ยังไม่จบนะคะ ตัดกลับอ่านต่อได้จนจบตอนที่เด็กดีค่ะ