วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"The XXX Project แรง ยั่ว มั่ว เซ็กส์ : เซ็กซ์...WonCin by Great"

บทความนี้ตัดมาจากที่นี่จ้า ^^



"The XXX Project แรง ยั่ว มั่ว เซ็กส์ : เซ็กซ์...WonCin by Great"

เซ็กส์ ...วอนซิน

เซ็กส์ คือ สัมผัสแห่งรัก
เซ็กส์ คือ การบอกรักด้วยภาษากาย
เซ็กส์ คือ ศาสตร์แห่งการแสดงออกถึงอารมณ์รัก
เซ็กส์ คือ ความต้องการที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
เซ็กส์ คือ สิ่งที่ไม่สามารถหยุดยั้งได้ง่ายๆ
ถ้าเมื่อไหร่ได้มีเซ็กส์กับคนที่คิดว่าใช่ ร่างกายก็จะตอบสนองด้วยความรู้สึกที่เต็มตื้นในหัวใจ จนไม่อาจจะหยุดยั้งมันลงได้เพียงแค่ชั่วเวลาเดียว

ท่ามกลางห้องสีแดงเพลิง บนเตียงหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ด้านใน เสียงครวญครางดังประสานกันลั่น เสียงเนื้อที่กระทบกันนั้นเร่งจังหวะความเร็วขึ้นตามแรงอารมณ์สวาท เตียงนอนสั่นไหวไปทั้งหลัง ผ้าม่านสั่นคลอนไปตามแรงขย่มของคนสองคนที่กำลังดำเนินเกมรักอย่างร้อนแรงมาอย่างยาวนาน
เซ็กส์กับคนที่แสนจะถูกใจ มันยากที่จะหยุดลงได้เพียงแค่ครั้งเดียว เช่นเดียวกับดาวเด่นคนสวยและลูกค้าหนุ่มสุดหล่อ ที่ดูท่าจะติดอยู่ในห้วงแห่งอารมณ์สวาทไม่รู้จักเสื่อมคลาย
ร่างบางอยู่ภายใต้ร่างกายของชายหนุ่ม มือบางกอดรัดเอวของชีวอนเอาไว้แน่น ร่างสูงส่งแรงรักมากับแรงกระแทกกระทั้นที่เร่งจังหวะอย่างถี่ระรัว เกมรักรอบแล้วรอบเล่าก็มิอาจหยุดความหลงใหลและความใคร่ที่มีต่อร่างบาง เหนือกว่านั้นคือไม่อาจจะหยุดความรักที่ก่อเกิดขึ้นมาได้เลยจริงๆ
“อื้อ....ชีวอนอ่า แรงๆ กระแทกเข้ามาแรงๆ ฉันชอบ” ร่างบางปัดป่ายร่างหนาไปทั่ว ชีวอนก้มลงประกบจูบกับปากอิ่มสีแดงสดที่เผยอรอรับอย่างรู้หน้าที่ มือหนากระชับสะโพกมนของคนด้านใต้มั่น แล้วส่งแรงเร่งเร้าเข้าไปในร่างกายของร่างบางถี่รัว เสียงครางอื้ออึงดังในลำคอ คนสองคนกำลังแลกเปลี่ยนรสจูบที่แสนร้อนแรงกันอย่างถึงใจ
ลิ้นร้อนเกี่ยวรัดลิ้นเล็กๆเอาไว้แน่น แล้วกวาดโลมเลียไปทั่วโพรงปากของร่างบาง ขบเม้มกลีบปากแดงอย่างแรง ดูดดุนแลกเปลี่ยนความหวานกันจนเกินกว่าจะต้านทานได้
“ชอลลี่อ่า....ผมรักคุณจัง” ชายหนุ่มยังคงพูดคำว่ารักในทุกๆเกมรัก คำว่ารักที่ส่งผ่านไปพร้อมกับเซ็กส์ที่แสนจะร้อนแรง คำว่ารักที่ทะลุทะลวงกำแพงของคนที่หยิ่งทะนงในตนเอง ให้เกิดความรู้สึกดีๆกับใครซักคนในที่สุด
“อ่า.....อื้ม...ชะ..ชีวอน” ร่างบอบบางเคลื่อนไหวไปพร้อมกับแรงกระแทกที่ชายหนุ่มนั้นส่งผ่านมาให้ มือหนาเลื่อนขึ้นไปเค้นคลึงบีบหน้าอกของร่างบางไปมา จนมันเป็นรอยแดงไปทั่ว
ผิวกายขาวผ่องลื่นมือน่าสัมผัส แต่งแต้มไปด้วยร่องรอยแห่งรักที่ชายหนุ่มนั้นจารึกเอาไว้มากมาย แต่ทว่ายามนี้ฮีชอลไม่ได้สนใจที่จะไปหงุดหงิดกับมัน ร่างบางกำลังลุ่มหลงกับรสรักแสนร้อนระอุที่ชีวอนนั้นบรรจงปั้นแต่งขึ้นมาให้
“อื้ม....อร่อย” ชายหนุ่มลากลิ้นลงมาที่คอระหง เลียผิวกายของร่างบางอย่างชอบใจ ก็ในเมื่อเจ้าตัวเค้าไม่มีท่าทีขัดขืน อยากทำอะไรก็ให้ทำ ไม่มีการร้องห้ามหรือว่าออกอาการเหวี่ยงวีนใส่ เวลาที่อยู่ในสมรภูมิรบทีไร ฮีชอลกลายเป็นขี้ผึ้งที่ถูกไฟรน อ่อนปวกเปียกจนสามารถทำอะไรกับร่างบางก็ได้ตามที่ใจต้องการ
ลิ้นร้อนตวัดโลมเลียยอดอกสีสดที่แข็งชันเพราะแรงบีบแค้น ฟันคมขบกัดเบาๆแต่ก็สร้างความเสียวซ่านสะท้านร่างกายของร่างบางยิ่งนัก ชีวอนยังไม่ทิ้งแรงเร่งเร้ากระแทกกระทั้นร่างกายเข้าหาร่างบาง จังหวะรักของชายหนุ่มมีแต่จะเร่งแรงขึ้นเรื่อยๆ
ฮีชอลไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยว่า เซ็กส์ของชีวอนนั้นมันช่างสุดยอด มันเหมือนยาเสพติด ที่ยิ่งเสพมากเท่าไหร่ยิ่งติดมากเท่านั้น และมันก็จะเพิ่มความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายไม่รู้ว่าตนเองจะต้องตายเพราะเซ็กส์ของชายหนุ่มรึเปล่า
“อ๊า....ชีวอนอ่า” ร่างบางเริ่มต้นบิดตัวไปมา ความร้อนลุ่มที่สวนทางเข้ามาในร่างกายตนเอง ความคับแน่นเพราะขนาดของชีวอนนั้นเล็กอยู่ซะเมื่อไหร่ ยิ่งชายหนุ่มมีอารมณ์มากเท่าไหร่ ร่างบางก็ยิ่งปวดหนึบไปทั้งร่างกาย แต่ทว่ามันกลับสุขใจที่ได้มีเซ็กส์กับชีวอน ถึงมันจะแลกกับความเจ็บแปลบในเวลาต่อมาก็ตามที่
“บอกสิว่าคุณต้องการผม...บอกผมสิครับว่าคุณก็รักผม” ชายหนุ่มเงยหน้าสบตากับร่างบาง ฮีชอลหายใจระรัว มือบางจิกลงบนไหล่หนาแน่นจนเป็นรอยเด่นชัด ร่างบางกัดฟันข่มความเสียวซ่านที่แล่นมาจนสุดปลาย มือหนาที่ชักกระตุกแกนกายของตนเองอยู่นั้นแกล้งลดแรงลงเอื่อยๆ ร่างบางสบตากับชายหนุ่มด้วยแววตาร้องขอ เห็นแบบนี้แล้วจะใจดำกลั่นแกล้งคนสวยให้ทรมานนานไปกว่านี้ก็ใช่ที่
ชีวอนสอดมือทั้งสองไปที่แผ่นหลังของร่างบาง แล้วรั้งร่างของคนที่นอนราบอยู่กับที่นอนขึ้นมากอดแนบอก คนสองคนแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม น้ำใสๆไหลปริ่มที่มุมปากของคนทั้งคู่ ไหลย้อยลงมาจนถึงที่ปลายคาง ลิ้นร้อนโลมเลียเก็บเกี่ยวทุกสิ่งทุกอย่างของฮีชอลเอาไว้จนหมด
ชีวอนรวบสรุปใจความเอาไว้ในใจสั้นๆว่า ฮีชอลคือของตนเอง และทุกอย่างของฮีชอลก็ต้องเป็นของตนเอง แค่คนเดียวเท่านั้น
“ฉัน....อื้ม...ต้องการ เร็วๆ อย่าลีลา อ๊า...” ร่างบางเร่งเร้าอย่างเอาแต่ใจ ชีวอนแกล้งส่งแรงเข้าไปแบบหนักๆ แล้วกดคามันเอาไว้อย่างนั้น ให้ร่างบางทรมานเล่นๆ ก็คนสวยนิสัยเสีย ชอบเอาแต่ใจ ชอบสั่งตนเอง ก็เลยอยากจะแกล้งก็แค่นั้น อยากจะให้คนสวยอยู่ในโหมดอ้อนบางก็แค่นั้นเอง
“ชะ...ชีวอน อย่าแกล้งฉันสิ อื้อ” ร่างบางตั้งท่าจะขย่มร่างกายตนเอง แต่ทว่ามือหนาก็กอดรัดตนเองเอาไว้แน่น ขยับไปไหนก็ไม่ได้ แกนกายของชายหนุ่มก็สอดใส่อยู่ด้านในร่างกายของตนเองแบบนั้น มันทั้งอึดอัด ทั้งเจ็บ และที่เหนือกว่านั้นคือมันทรมานจนเกินจะอดทนแล้วจริงๆ
“ขอร้องผมสิครับ พูดเสียงหวานๆกับผม แล้วผมจะทำให้คุณมีความสุขที่สุด” ชายหนุ่มแกล้งขยับร่างกายช้าๆ ให้ร่างบางคลั่งเล่น ฮีชอลจิกไหล่ชีวอนเอาไว้แน่น ร่างบางมองชายหนุ่มด้วยสายตาที่แข็งกร้าว ทั้งๆที่ตนเองกำลังจะปลดปล่อยพันธนาการแห่งรักอยู่แล้ว แต่ชีวอนกลับมาสะกดมันเอาไว้แบบนี้
“มองผมด้วยสายตาแบบนี้ เดี๋ยวผมก็ใส่คาเอาไว้แบบนี้ ไม่ถอดออกให้ซะเลยนี่ ผมชอบนะ...รู้สึกดีจะตายไป” ลิ้นร้อนเลียที่ใบหูของร่างบางเบาๆ ฮีชอลก็สะท้านไปทั้งร่างกาย ร่างบางรู้สึกได้ว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาหยิ่งทะนงตัว รอให้ผ่านเกมนี้ไปก่อนเถอะ ค่อยเอาคืนให้มันสาสมกับที่ชีวอนนั้นแกล้งตนเองแบบนี้
“ชีวอนอ่า...อย่าแกล้งฉันสิ ทำให้ฉันหน่อยนะ” ฮีชอลหรี่ตาลงเล็กน้อย กัดปากอย่างยั่วยวน มือบางลูบไล้ไหล่หนาแล้วสอดขึ้นไปโอบกอดรอบคอของชายหนุ่มเอาไว้ ปากอิ่มจุมพิตลงบนซีกแก้มแล้วค่อยๆไล้ไปที่ริมฝีปากหนา กดทับลงไปอย่างหนักหน่วง เป็นการอ้อนวอนร้องขอที่ถึงใจซะจริงๆ
ชีวอนคลายแรงกอดรัดร่างบางออก แล้วเริ่มต้นขยับสะโพกเข้าหาร่างบาง สานต่อเกมรักที่ชะงักค้างเมื่อครู่ คนสองคนแลกลิ้นกันพัลวัน ร่างบอบบางเริ่มต้นสั่นคลอนอีกครั้ง แรงกระแทกที่ชีวอนนั้นส่งไปนั้นทำเอาฮีชอลสั่นไหวไปทั้งร่างกาย
“อ๊ะ...อ๊ะ....ชีวอนอ่า” ร่างบางเชิดหน้ายามที่ชายหนุ่มนั้นซุกไซร้ใบหน้าหล่อเหลาไปทั่วผิวกายผ่อง รอยรักรอยแล้วรอยเล่าเพิ่มขึ้นมาบนผิวขาว รอยคมเล็บบนร่างกายของชีวอนก็เกิดขึ้นเต็มไปหมด
“ชอลลี่อ่า....ผมรักคุณ” ชายหนุ่มเร่งจังหวะเป็นการส่งท้าย หลังจากที่รู้สึกปั่นป่วนในอารมณ์จนแทบจะทนไม่ได้ ร่างหนากดแช่แกนกายเอาไว้อย่างนั้น  ปลดปล่อยอารมณ์รักพร้อมๆกับความรู้สึกทั้งหมดที่มันอัดแน่นในร่างกายออกมาจนสิ้น ฮีชอลนอนเกร็งร่างกายสะท้าน มือหนาเร่งเร้าปลดปล่อยอารมณ์ให้กับร่างบางอย่างเต็มที่
“อึก...อื้อ...ไม่ไหว ฉันไม่ไหวแล้ว....อ๊า” ร่างบางเกร็งกายสะท้าน ปลดปล่อยน้ำรักออกมาเต็มที่ ชายหนุ่มเลียปากเล็กน้อยมองดูภาพตรงหน้าด้วยอารมณ์ที่แสนจะยวนใจ อยากจะโลมเลียร่างกายสวยงามอีกครั้ง อยากจะสอดใส่เข้าไปในร่างกายของร่างบางอีกหน แต่ทว่ากลัวคนสวยจะหมดแรงตายซะก่อน เพราะที่ทำกันมานั้นมันก็ไม่ต่ำว่าสามรอบติดๆแล้ว
“อื้อ....” ร่างบางทิ้งแรงทั้งหมดลงบนเตียงนอน นอนหายใจนิ่งอยู่อย่างนั้น ชีวอนก้มลงโลมเลียท่อนขาเรียวไปมาให้ร่างบางสยิวกายเล่น ฮีชอลพยายามเรียกความมั่นใจในตนเองกลับคืนมา หลังจากที่มันกระเจิงไปหมดเพราะเซ็กส์แสนร้อนแรงของชีวอน
“อร่อยจัง” ชายหนุ่มเลียปากเบาๆ แล้วสอดตัวลงนอนข้างๆร่างบาง มือหนาวางหมับลงบนเอวบาง มืออีกข้างเกลี่ยผมคนสวยที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“โรคจิต” ร่างบางต่อว่าน้อยๆ หลับตานิ่งให้สภาพร่างกายนั้นเข้าที่เข้าทาง สมรภูมิรบมันร้อนระอุและดุเดือดมาอย่างยาวนานหลายชั่วโมงแบบนั้น ทำซะปวดเมื่อยไปทั้งร่างกาย เชื่อแล้วล่ะที่ชีวอนชอบบรรยายสรรพคุณตนเองหนักหนา เรื่องที่ว่า ซอยดี ซอยถี่ ซอยทน.....มันเป็นแบบนั้นจริงๆ
“โรคจิตที่ไหนกันจะหล่อเร้าเอาเก่งแบบผม...ก็คุณอยากน่ากินเองทำไม ผมเลยต้องกินให้ได้ทุกส่วน ทุกที่ที่กินได้” ลิ้นร้อนเลียใบหูของร่างบาง แกล้งแหย่เข้าไปที่ใบหูอย่างซุกซน ฮีชอลไม่แม้แต่จะขัดขืน ไม่ใช่เพราะว่าไม่อยากจะขัดขืน แต่ตอนนี้ร่างบางรู้สึกเหนื่อยล้าเกินกว่าที่จะมานั่งเหวี่ยงหรือพาลใส่ชีวอนจริงๆ
“ฉันจะนอน!!” สั้นๆ ง่ายๆ และได้ใจความที่สุด
“นอนก็นอนไปสิครับ ผมไม่ได้ห้ามคุณนี่นา” มือหนาลูบแผ่วบนไหล่เนียน ปากหนากดจุมพิตลงไปอย่างอ่อนโยน ฮีชอลพยายามคุมสติตนเอง ไม่ให้เผลอไผลไปกับชีวอนอีก แค่นี้ก็หมดเรี่ยวแรงเกินกว่าจะทำอะไรได้แล้ว
“นายไม่ได้ห้าม แต่นายก็ลูบนั่น ขยำนี้ ทำแบบนี้แล้วฉันจะนอนได้ยังไงกันเล่า” ร่างบางยังคงหลับตานิ่ง น้ำเสียงเอาแต่ใจเริ่มกลับมาอีกครั้ง ฮีชอลไม่สามารถถดกายหนีชีวอนได้ ก็รายนั้นเล่นเกาะหนึบติดแน่นอยู่ที่ด้านหลังตนเอง แถมยังจงใจเอาส่วนล่างมาถูๆไถให้คนอารมณ์กระเจิงอีก
“ชีวอน!!!” ฮีชอลถลึงตามองจนตาโตๆนั่นแทบจะถลนออกมานอกเบ้า ก็ชีวอนเล่นเอาคางเกยไหล่ แล้วมือหนาๆก็เลื้อยลงต่ำไปยังส่วนล่าง เริ่มตนลูบๆคลำๆไปมาอย่างยั่วเย้า ฮีชอลอยากจะตะโกนถามเหลือเกินว่าไอ้ที่ทำกันไปตั้งหลายรอบเนี่ย มันยังไม่พออีกรึไง หรือว่าเรื่องเซ็กส์ของชีวอนมันไม่เคยเติมเต็มรึยังไงกัน
“ครับ!! ให้ผมทำต่ออีกรอบหรอ” ชีวอนอาศัยลูกด้านพุ่งเข้าใส่ มือหนาดันร่างบางที่นอนตะแครงให้นอนราบลงบนเตียงนอนที่แสนจะยับยู่ยี่ แล้วก็ตามขึ้นคร่อมทับร่างบางทันที ฮีชอลถลึงตามองอย่างเคืองๆ
“ถ้าไม่อยากตายก็ลุกออกไปเลย ฉันจะนอน” ฮีชอลจ้องมองโดยที่ไม่ได้ละสายตาไปจากใบหน้าของชีวอนเลยซักนิด ชายหนุ่มก็ส่งยิ้มทำหน้าตายไร้ซึ่งความกลัวเกรงเลยแม้แต่น้อย
“ผมยอมตาย...ถ้าคนที่ทำให้ผมตายคือคุณ” ชีวอนนาบร่างกายลงทับร่างของฮีชอล ใบหน้าหล่อเหลาแนบชิดกับใบหน้าหวานที่แดงซ่าน จมูกโด่งสัมผัสกับจมูกของร่างบาง ดวงตาของคนทั้งคู่จ้องมองซึ่งกันและกัน ฮีชอลไม่รู้ว่าตนเองเผลอมาใจอ่อน รู้สึกดีกับคนหน้าด้านแบบนี้ได้ยังไง ทั้งๆคนแบบชีวอนคือคนที่ตนเองเกลียดมากที่สุดแท้ๆ
“ฉันอยากนอนนี่นา...ขอนอนพักหน่อย...ไม่ได้หรอ” ร่างบางรู้เลยว่าถ้าขึงขังใส่ ไอ้หมอนี่มันไม่ยอมง่ายๆหรอก ต้องเล่นบทอ้อนกันแบบนี้นี่แหล่ะชีวอนถึงจะใจอ่อน ชายหนุ่มถอนหายใจน้อยๆ แล้วซบหน้าลงบนอกของคนด้านใต้อย่างใจอ่อนยวบ เวลาที่เจอคนสวยอ้อนทีไร ใจแข็งแกล้งไม่ลงซะทุกที
“เวลาคุณอ้อนผมแบบนี้ ผมใจอ่อนจนทำอะไรคุณไม่ลงเลยนะ รู้มั๊ยครับชอลลี่” ชีวอนเอามือนาบแก้มของฮีชอลเบาๆ แล้วลูบไล้อย่างอ่อนโยน คนสวยแอบยิ้มน้อยๆอย่างชอบใจ บางมุมชีวอนก็น่ารัก แต่มันก็แค่มุมเล็กๆแค่นั้นแหล่ะ มุมกว้างๆและเห็นเด่นชัดที่สุดของชีวอนคือความด้านและความเนียนต่างหาก
“หรอ!! งั้นฉันจะอ้อนนายทุกวันเลยดีมั๊ย นายจะได้ไม่ต้องทำอะไรฉัน” ร่างบางแกล้งพูดเย้า ชีวอนเงยหน้าขึ้นมามองแล้วยิ้มกวนๆกลับไป
“นานๆอ้อนทีผมก็ใจอ่อนหรอกครับ แต่ถ้าอ้อนบ่อยเกินความจำเป็น มันจะทำให้ผมยิ่งอดใจไม่ไหว แล้วกระแทกใส่คุณแรงยิ่งกว่าเก่า นานยิ่งกว่าเดิม จะเอามั๊ยล่ะครับ” ร่างบางตีหน้ายุ่งทันที แล้วบ่นอะไรงึมงำคนเดียว ไม่อยากจะพูดอะไรกับชีวอนเลยจริงๆ หมอนี่มีข้อโต้แย้งได้ทุกข้อนั่นแหล่ะ
“ฉันไม่คุยกับนายแล้ว จะนอน” ร่างบางหลับตาลงทันที เรื่องอะไรจะยอมให้ชีวอนไล่ต้อนตนเองได้ตามใจชอบขนาดนั้น
“ยังไม่ให้นอนครับ” ชีวอนแกล้งถ่างตาคนสวย ทำเอาฮีชอลตวัดมือตีลงบนไหล่ของชีวอนซะจนเป็นรอยแดง ร่างบางถลึงตามองอย่างเคืองๆ ไม่รู้ว่าชีวอนจะเล่นอะไรนักหนา
“อะไรของนายอีก ฉันจะนอนพักเอาแรงไว้ทำต่ออีกรอบไม่ชอบรึไง” ร่างบางพูดอย่างประชด แต่ดูเหมือนว่ามันจะเข้าทางชีวอนซะเหลือเกิน ชายหนุ่มยิ้มกริ่มอย่างชอบใจ คนสวยนี่ก็น่ารักอย่างนี้นี่แหล่ะ
“ผมไม่ได้จะขอทำอีกรอบซะหน่อย แต่คุณพูดเองแบบนี้ผมยอมให้นอนก็ได้ครับ ตื่นเมื่อไหร่ก็ขย่มกันต่อเลยนะครับ....” ชีวอนยิ้มเจ้าเล่ห์ ฮีชอลถอนหายใจอย่างฟึดฟัด หลงกลของชีวอนเข้าให้อีกแล้ว
“ไอ้ทุเรศ!! สมองมีแต่เรื่องเอา ขย่ม กระแทก แตก นายนี่มัน...” ฮีชอลว่าอย่างเคืองๆ คนแบบนี้นี่นะที่ทำให้ตนเองใจอ่อนยอมให้ความรู้สึกดีๆได้เนี่ย ไม่เข้าใจตัวเองแล้วสิว่าไปหลงใหลได้ปลื้มกับไอ้หมอนี่ได้ยังไงกัน
“ผมรู้หรอกครับว่าผมอ่ะมัน...ถ้าผมทำไม่มัน คุณจะให้ซอย ให้ขี่ ให้ขยี้ได้ทุกวันแบบนี้หรอครับ...” ฮีชอลแทบจะสติแตกจริงๆ ผู้ชายคนนี้หน้าด้านหน้าทนเกินไป ขนาดด่าไปแบบนั้น ก็ยังยิ้มรับแล้วด้านกลับมาใส่อีกต่างหาก
“ชเว ชีวอน!!” ร่างบางกัดฟันกรอด คาดว่าวันนี้คงไม่ได้นอนหลับหรอก ถ้ายังมานั่งต่อปากต่อคำกับชีวอนแบบนี้
“ผมรักคุณนะชอลลี่” ชีวอนยิ้มพริ้มพราย จ้องตาส่งผ่านความรู้สึกไปให้ร่างบาง คำเดียวที่สามรถสยบทุกสิ่งทุกอย่างได้ ฮีชอลถอนหายใจแรงๆซะสองสามที
“โว้ย!!!” ร่างบางกำที่นอนแน่นแล้วกรีดร้องออกมาอย่างสุดจะทน ชีวอนยังคงยิ้ม ยิ้ม และก็ยิ้ม จนฮีชอลไม่รู้ว่าจะสรรหาคำไหนมาด่าให้ชีวอนสำนึกได้แล้ว
“นี่ฉันมาหลงชอบคนแบบนายได้ยังไงกันเนี่ย ถ้าฉันย้อนเวลากลับไปได้ คืนนั้นฉันจะไม่เลือกนายเลยจริงๆ” ร่างบางแทบจะทึ้งหัวตัวเอง ชีวอนตีหน้ายิ้มอยู่แบบนั้นได้ยังไงกัน แล้วไอ้รอยยิ้มนั่นน่ะมันกระชากความรู้สึกทั้งหมดของตัวเองไปจริงๆ
“ก็ผมมีเสน่ห์นี่นา ลีลาผมก็เด็ด ผมออกจะซอยเก่งขนาดนั้น ไม่อย่างนั้นคุณจะครางลั่นจนผมสติแตกหรอครับ” ยิ่งพูดก็ดูเหมือนว่าจะยิ่งเข้าตัว ฮีชอลนับหนึ่งถึงสิบในใจ แล้วบอกกับตัวเองว่าไม่ควรจะต่อล้อต่อเถียงกับชีวอน ควรจะข่มใจแล้วนอนให้หลับซะ เพื่อที่จะได้มีแรงเก็บแต้มในเกมถัดไป
“ผมบอกรักคุณไปแล้วนะครับ หลายรอบแล้วด้วย คุณจะไม่บอกให้ผมชื่นใจหน่อยหรอครับ” ชีวอนมองดูคนสวยที่หลับตาไปแล้ว มือหนาตั้งท่าจะถ่างตาคนสวยอีกครั้ง ฮีชอลรีบปัดมือของชีวอนออกทันที ร่างบางมองหน้าชีวอนอย่างเคืองๆ
“รัก” สั้นๆแล้วหลับตาลง ชีวอนก้มลงดูดปากของร่างบางแรงๆอย่างลงโทษ คนที่หลับตาไปแล้วลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แล้วดันใบหน้าหล่อๆของชีวอนออกห่างทันที
“อะไรของนายอีกเนี่ย อยากให้บอกว่ารัก ฉันก็บอกไปแล้วยังไงเล่า” ฮีชอลล่ะอยากจะตบไปที่หน้าของชีวอนซะทีอย่างหมั่นไส้ แต่ก็ทำไม่ได้ ใช่ว่าไม่อยากทำ แต่ตอนนี้ชีวอนรวบมือของฮีชอลทั้งสองข้างเอาไว้ต่างหาก
“ผมเสียใจนะ...ผมบอกรักคุณจากความรู้สึกทั้งหมดของหัวใจ แต่คุณกลับพูดคำว่ารักกับผมแค่ส่งๆ ไม่ได้ออกมาจากหัวใจ....” ชีวอนตีหน้าเศร้า ฮีชอลละเชื่อจริงๆ ผู้ชายคนนี้สามารถทำให้ตนเองรู้สึกผิดได้ทุกเรื่อง ทั้งๆที่ตนเองไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแม้แต่น้อย
“ฉันรักนาย...พอใจรึยัง” ฮีชอลมองสบตากับชีวอนที่จ้องมองมาอย่างตัดพ้อ ร่างบางถอนหายใจแรงๆอีกครั้ง
“ฉันรักนาย....รักมากๆ รักจนอยากถูกกระแทกอีกซักสองสามยก อยากจะกระดกตูดให้นายเอาอยู่แล้วเนี่ย รักมากๆ รักจนอยากถูกทิ่มแทง รักแบบอยากถูกแยงทุกคืน รักโว้ย!! นายจะเอายังไงเนี่ย” ฮีชอลสติแตกไปแล้ว ชีวอนหัวเราะลั่นกับคำบอกรักของคนสวยที่มันฮาร์ดคอแบบสุดๆ ช่างเป็นคำบอกรักที่ทำเอาอารมณ์กระตุก อยากจะทำอย่างที่แม่คนสวยนั้นพูดออกมาซะจริงๆ
“กระดกเลยสิครับ ผมก็พร้อมจะเสียบจะแทงทันทีเลยนะ” เอ่ยปากแซวจนร่างบางออกอาการอาย ถึงเจ้าตัวจะพยายามตีหน้าขรึมแต่แก้มแดงๆนั่นมันฟ้องว่าเจ้าตัวรู้สึกยังไง
“ชเว ชีวอน!!” ฮีชอลกำลังจะเป็นบ้า สติจะแตกจริงแล้ว
“ครับผม เรียกบ่อยๆแบบนี้ อยากใช้นามสกุลผมล่ะสิ ผมยกให้แบบฟรีไม่คิดเงินเลยนะครับ แลกกับการที่คุณไปอยู่กับผม ไปอยู่ด้วยกัน เลิกทำงานที่นี่ แล้วไปอยู่กับผม...นะครับ!!” ชีวอนวกกลับเข้ามาเรื่องนี้อีกแล้ว ฮีชอลถอนหายใจ แล้วยันตัวลุกขึ้นนั่งพิงหมอน มองหน้าชีวอนด้วยความรู้สึกหนักใจ
“นายก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้...”
“ผมจะไปคุยกับคุณอีทึกเอง ผมยอมเสียเงิน มากเท่าไหร่ผมก็ยอมเสีย ขอแค่คุณเลิกทำงานที่นี่แล้วไปอยู่กับผม ไปอยู่ด้วยกันในฐานะคนรักของผม ถ้าคุณยังทำงานอยู่ที่นี่ ความสัมพันธ์ของเรามันก็แค่ลูกค้ากับโฮสต์ ทั้งๆที่จริงแล้วมันมากกว่านั้น” ชีวอนคิดเรื่องนี้แบบจริงจังมาซักพักแล้ว ชายหนุ่มไม่ชอบใจเท่าไหร่ที่จะให้คนอื่นมาจ้องมองฮีชอลด้วยสายตาแบบนั้น ผู้ชายด้วยกันทำไมจะดูไม่ออกว่าแต่ละคนนั้นคิดอะไรอยู่ในใจ แล้วถ้าวันไหนตนเองเกิดมาไม่ได้ แล้วถ้าฮีชอลเกิดเสียท่าให้ใคร ชีวอนก็คงจะทนไม่ได้หรอก
“เรื่องนี้มัน....” ที่ฮีชอลรู้สึกหนักใจ เพราะว่าเกรงใจอีทึก ถึงอีทึกจะขี้บ่น แต่ทว่าอีทึกก็ให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับตนเอง ให้ความเป็นอยู่ที่ดี จะให้ทิ้งที่นี่ไปเพื่อความสุขสบายของตัวเอง แล้วอีทึกจะยอมหรอ ในเมื่อตนเองคือดาวเด่นที่สามารถทำเงิน ทำรายได้ สร้างชื่อเสียงให้กับ X Club มากขนาดนี้
“โอเคครับ เดี๋ยวผมคุยกับคุณอีทึกเอง คุณนอนพักดีกว่านะครับ เดี๋ยวตื่นมาเราจะได้มาเก็บแต้มกันต่อ” ชีวอนดันฮีชอลให้ล้มตัวลงนอน ชายหนุ่มกอดก่ายร่างบางเอาไว้แนบกาย ต่างคนต่างคิดเรื่องที่เพิ่งคุยกันในสมอง
มันจะเป็นไปได้หรอ? อีทึกจะยอมอย่างนั้นหรอ แล้วตนเองมั่นใจมากแค่ไหนกัน ว่าจะสามารถฝากชีวิตทั้งหมดเอาไว้กับผู้ชายคนนี้ได้...

ฮีชอลค่อยๆพลิกร่างกายหลังจากที่เริ่มรู้สึกตัวแล้ว ร่างบางค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นใบหน้าของชีวอนที่จ้องมองตนเองอยู่ไม่ห่าง ชนิดที่เรียกว่าแทบจะติดเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าชายหนุ่มนั้นจ้องมองตนเองมานานแค่ไหนแล้ว
“ขนาดเวลานอนก็ยังสวย คุณจะสวยไปถึงไหนครับ” ชีวอนส่งสายตากรุ้มกริ่มมาให้ทำเอาคนที่ถูกชมหน้าขึ้นสีทันที มันเป็นคำชมที่ได้ยินมาจนชินชา แต่ทว่ามันสำคัญที่ว่าใครเป็นคนชมต่างหาก
“อะไรของนายเนี่ย จะจ้องหน้าฉันอีกนานมั๊ย?” คนสวยออกอาการพาลเล็กน้อยเพื่อกลบความเขินอาย ชีวอนรู้เลยว่าคนสวยกำลังรู้สึกยังไง ชายหนุ่มขยับตัวเข้ามาแนบชิดกับร่างบาง กอดรัดคนสวยเอาไว้แนบแน่น ซุกหน้าลงบนผิวกายสวย
“ก็คุณสวยจริงๆนี่ครับ ยิ่งเวลามีอะไรกัน เวลาที่คุณครางเสียงหวานๆ คุณยิ่งสวย” ชีวอนเลียใบหูของร่างบางเบาๆ แล้วงับติ่งหูของคนสวยอย่างแกล้งๆ ร่างบางขนลุกวาบไปทั้งร่างกาย มือบางตั้งท่าจะดันร่างหนาออกห่าง แต่ทว่าชายหนุ่มก็รวบมือบางเอาไว้ทันที
“มาถึงขั้นนี้แล้ว คุณจะเขิน จะอาย จะขัดขืนทำไมล่ะครับ ผมรู้ว่าคุณชอบมีเซ็กส์กับผม เพราะว่าผมน่ะลีลาเด็ด อย่าปฏิเสธเลยครับ หลักฐานมันทนโท่ขนาดนั้น” มือหนาเลื้อยลงต่ำ จับหลักฐานซะเต็มไม้เต็มมือ ร่างบางถลึงตาใส่ทันที
“ใจคอนายจะไม่ให้ฉันพักบ้างเลยรึยังไง” ฮีชอลจ้องตาชีวอนอย่างจริงจัง แต่พอเห็นรอยยิ้มกับสายตาแบบนั้นของชายหนุ่ม ก็ได้แต่ถอนหายใจ
แพ้อีกแล้ว แพ้สายตากับรอยยิ้มแบบนี้ แพ้ทุกทีสิน่า!!
“โอเคครับ! ให้พักก็ได้ เดี๋ยวผมพาคุณไปอาบน้ำนะครับ ผมบริการอาบให้เลยด้วย” ชีวอนลุกขึ้นจากที่นอนทันที ร่างบางมองร่างกายไร้อาภรณ์ปกปิด ร่างกายกำยำสมส่วน ต่างจากตนเองลิบลับ
“ไปอาบน้ำกันดีกว่าครับ” จัดการช้อนร่างบางที่จ้องมองตนเองแล้วกัดปากแบบนั้น ชายหนุ่มยิ้มแบบเจ้าเล่ห์แค่เห็นสีหน้าของร่างบางก็รู้แล้วว่าคนสวยกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ แต่ตามสเต็ปของคนสวยเค้าล่ะ ต้องฟอร์มปากแข็ง ทั้งๆที่ความต้องการมันชัดเจนขนาดนั้น
ชีวอนค่อยๆวางร่างของคนสวยลงในอ่างแล้วจัดการเปิดน้ำใส่ลงไป ชายหนุ่มจัดการเทครีมอาบน้ำลงไปในอ่าง แล้วตีมันให้เกิดฟองก่อนที่จะค่อยๆก้าวลงไปในอ่างนั่งซ้อนด้านหลังของคนสวย กลิ่นหอมของผิวกายนุ่มผสมกับกลิ่นหอมจากครีมอาบน้ำ มันให้ความรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ
“หอมจัง” ชีวอนสวมกอดคนสวยแน่น เกยคางลงบนไหล่เนียน มือหนาลูบไล้ผิวกายของคนสวยอย่างลื่นไหลเพราะฟองและครีมที่ลื่นมือ
“ฉันหรือว่ากลิ่นครีมอาบน้ำ” คนสวยเอียงคอเล็กน้อยยามที่ชายหนุ่มนั้นซุกหน้าลงมาที่ซอกคอ ชีวอนกดจูบหนักๆสร้างรอยรักขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ มือหนายังคงลูบไลไปทั่วผิวกายของร่างบาง
“ทั้งสองอย่างเลยครับ แต่ว่ากลิ่นคุณมันชวนให้ดอมดมมากกว่า” ชายหนุ่มเชยคางมนให้หันมาแล้วจัดการประกบปากทับกลีบปากอิ่มทันที ริมฝีปากหนาบดเบียดกลีบปากนุ่มอย่างร้อนแรง ดูดดุนกลีบปากอิ่มไปมา เม้มให้ร่างบางเผยอปากขึ้นเพื่อที่จะได้สอดใส่ลิ้นเข้าไปทักทายลิ้นเล็กๆ
ร่างบางเผยอปากรับลิ้นร้อนที่สอดเข้ามา มือหนาลูบวนอยู่ที่ก้นนิ่มของร่างบาง มืออีกข้างเค้นคลึงกดวนอยู่ที่หน้าอกของคนสวย ฮีชอลครางฮือในลำคอ มันให้ความรู้สึกที่เสียวซ่านสะท้านไปทั้งร่างกาย แกนกายของชายหนุ่มนั้นมันทิ่มอยู่ที่ก้นตนเองแบบนั้น มือหนาที่เค้นคลึงยอดอกตนเองนั่นอีก
“อือ” ฮีชอลแอ่นอกขึ้นรับแรงบีบของชายหนุ่ม ลิ้นเล็กดุนดันกับลิ้นหนาที่สอดเข้ามา ร่างบางดูดปากแลกลิ้นกับชายหนุ่มอยู่นานสองนาน ชีวอนจัดการหมุนฮีชอลให้หันหน้ามาหาตนเอง และยกร่างบางให้ขึ้นมานั่งบนตัก ฮีชอลเกาะไล่หนาแน่น แล้วยื่นหน้าเข้าไปประกบจูบกับชีวอนอีกครั้ง
มือหนาลูบวนที่ก้นนิ่มอยู่นานสองนาน บีบและเค้นคลึงมันอยู่อย่างนั้น ร่างบางแอ่นอกเข้าหาร่างหนา ถูไถไปมาอย่างยั่วเย้า ก็ในเมื่อตนเองก็เกิดความต้องการ ชีวอนเองก็เกิดความต้องการ มันก็ไม่ต้องมานั่งอายกันแล้วหล่ะ ก็อย่างที่ชีวอนว่า มาถึงขั้นนี้แล้วยังจะอายอะไรกัน
เซ็กส์มันๆแบบนี้ ไม่เอาก็บ้าแล้ว!!
ร่างบางผละออกจากการแลกลิ้นกับชายหนุ่ม มือบางดันร่างหนาให้เอนลงพิงขอบอ่าง ฮีชอลเอนกายลงนาบทับ ร่างบางเลียปากน้อยๆ แล้วก้มลงกดจมูกลงบนแก้มของชายหนุ่ม ลิ้นเล็กๆลากไล้ลงมาที่ซอกคอของร่างหนา มือบางเลื้อยลงต่ำกอบกุมแกนกายของร่างหนาจนเต็มมือ และขยับมันขึ้นลงอยู่อย่างนั้น สัมผัสลื่นจากฟองครีมมันช่างได้อารมณ์จริงๆ
“ชอลลี่ครับ..ทำแบบนี้ผมคลั่งนะ” คนสวยจัดเต็มมากรอบนี้ ยั่วซะตนเองแทบแตก แต่ว่าจะแตกตอนนี้มันก็ใช่ที่ ชีวอนชอบแตกใส่ร่างกายตนสวยมากกว่า มันให้ความรู้สึกดีแบบสุดๆเวลาที่ร่างบางเกร็งตอดรัดตนเองแบบนั้น ยิ่งคิดก็ยิ่งอยาก...
“ฉันก็คลั่งเหมือนกันนะ” ร่างบางกระซิบแผ่วแล้วงับหูของชายหนุ่มเบาๆ ลิ้นเล็กๆแหย่เข้าไปในหูของชีวอน ชายหนุ่มขนลุกทันที อยากจะจัดการขยี้คนสวยซะเดี๋ยวนี้ แต่ทว่าไม่อยากขัดใจคนสวยเท่าไหร่ ก็ได้แต่อดทนไปก่อน เดี๋ยวค่อยจัดหนักกันอีกที
“อื้ม...ชักแรงๆกว่านี้สิครับ อ๊า...แบบนั้น” ชีวอนเงยหน้าขึ้นให้คนสวยเล่นกับร่างกายตนเองเต็มที่ มือบางอีกข้างกำลังบีบเค้นยอดอกตนเองอย่างหนัก คนสวยชอบทำอะไรแรงๆ มืออีกข้างก็ชักกระตุกอย่างหนัก ทำเอาชีวอนแทบคลั่งจริงๆ
“ผมไม่ไหวแล้วนะครับชอลลี่ ขอผมซอยแบบถี่เลยได้มั๊ยครับ” ชีวอนส่งสายตาอ้อนวอนร้องของ ฮีชอลกัดปากน้อยๆ แล้วสบตากับชายหนุ่มแน่นิ่ง
“ชีวอนอ่า....สายตานายมันช่างร้อนแรงจริงๆ แค่สบตากับนาย ฉันก็จะตายอยู่แล้ว” ร่างบางก้มลงจูบปากร่างหนาอีกครั้ง กลีบปากอิ่มขบเม้มปากหนาหนักๆ แล้วกัดแบบเบาๆ ชีวอนจัดการรูดรั้งแกนกายของตนเองเพื่อให้มันพร้อมทำหน้าที่
“นะครับคนสวย ทำเถอะครับ อย่าเร้าไปมากกว่านี้เลย ผมจะแตกแล้วนะครับ” คนสวยยั่วแบบนี้มันจะตายเอาซะให้ได้ จะตายก่อนที่จะได้ขย่มกับคนสวยซะอีก
“อืม...” คนสวยกดไหล่หนาแล้วค่อยๆยันตัวลุกขึ้น ชีวอนกุมแกนกายตนเองให้ตั้งชัน ร่างบางค่อยๆทิ้งตัวลงนั่งทับร่างหนา แกนกายของชายหนุ่มค่อยๆสอดใส่เข้าไปในร่างกายของคนสวย ฮีชอลกัดปากแน่น เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย จิกไหล่หนาเอาไว้มั่นแล้วกดร่างกายตนเองลงไปเรื่อยๆ
“อื้อ...เจ็บอ่า” ร่างบางกดร่างกายลง ร่างหนาแอ่นสะโพกขึ้นหา ฮีชอลค่อยๆระบายลมหายใจเมื่อกดร่างกายมาจนแนบชิด ความคับแน่นนั้นทำให้รู้สึกอึดอัดจนแทบจะลืมหายใจ ร่างบางค่อยๆระบายลมหายใจ ซบหน้าลงบนไหล่หนา ก่อนที่จะค่อยๆเริ่มต้นขย่มตัวขึ้นลง
ยามยกร่างกายขึ้นก็เสียววาบ ยามกดร่างกายลงก็สั่นสะท้าน ยิ่งขย่มตัวขึ้นลงมากเท่าไหร่ ยิ่งรู้สึกสั่นไหวมากเท่านั้น
“อ๊า....ทำไมมันใหญ่แบบนี้” ร่างบางกัดปากแน่น แกนกายของชีวอนมันใหญ่จนคับแน่นไปหมด ขยับตัวขึ้นลงทีก็เสียววาบไปทั้งร่างกาย
“ไม่ชอบหรอครับ ใหญ่ๆแบบนี้ไม่ดีหรอครับ” ชีวอนแอ่นสะโพกสวนขึ้นไปรับกับแรงกดของร่างบาง ฮีชอลกัดฟันแน่น จิกไหล่หนาเอาไว้ แล้วขย่มร่างกายขึ้นลงอย่างหนัก
“อื้อ....เสียว..อ๊า” ร่างบางเชิดหน้าขึ้น กัดปากแน่นจนแทบจะห้อเลือด เสียงน้ำกระเพื่อมสั่นไหวตามแรงขย่มของคนสองคนดังลั่น เสียงครางหวานดังสลับกับเสียงครางต่ำ ชีวอนซุกหน้าลงบนผิวกายของร่างบาง แล้วโลมเลียดูดดุนไปทั่วอย่างกระหาย
“ชอลลี่อ่า...ผมรักคุณ” ชีวอนกอดรัดร่างบางแน่น ลูบไล้ผิวนุ่มอย่างลื่นไหล กดจูบไปทั่วร่างกายสวยงาม คนสวยก็ยังคงขย่มตัวขึ้นลงอย่างไม่มีแรงตก เรื่องเซ็กส์นั่นมันเป็นเหมือนสิ่งเสพติดสำหรับคนทั้งคู่ไปแล้ว ยิ่งรักมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงออกทางภาษากายมากเท่านั้น
“ชะ..ชีวอน อื้อ” ร่างบางก้มลงจูบกับร่างหนา ชีวอนแอ่นสะโพกขึ้นรับจังหวะกับร่างบาง มือหนาบีบก้นนิ่มอย่างมันมือ ทั้งบีบทั้งเค้นคลึงเพื่อให้คนสวยคลายความเสียวซ่าน
“ชอลลี่...แน่นจัง อืม ทั้งตอดทั้งรัด ผมจะคลั่งแล้วนะ” ชีวอนกัดฟันแน่น รู้สึกเสียวซ่านมากๆเวลาที่ร่างบางนั้นตอดรัดตนเองแบบนั้น
“ชีวอนอ่า...ทรมาน ไม่ไหวแล้ว” ร่างบางทิ้งแรงขย่มลงมาอย่างหนัก เกาะไหล่หนาแน่นแล้วยกร่างกายขึ้น ก่อนที่จะกดลงมาแรงๆอีกครั้ง เสียงครวญครางของคนสวยมันกระชากใจชีวอนเหลือเกิน
“ชอลลี่ครับ ผมมีความสุขจัง อืม” ชีวอนช่วยคนสวยด้วยการจับสะโพกมนยกขึ้น แล้วกดลงมาหนักๆ มือบางเกาะไหล่หนาข้างหนึ่ง อีกมือหนึ่งเลื่อนลงต่ำไปในน้ำ แล้วกอบกุมแกนกายตนเอง อยากจะปลดปล่อยเต็มที่แล้ว มันทรมานราวกับว่าร่างกายกำลังจะระเบิด
“อึก อื้อ...ชีวอนอ่า” ฮีชอลกัดปากแน่น มันเสียววาบไปทั้งร่างกาย ชีวอนก็ซุกหน้าอยู่ที่ซอกคอของร่างบาง ลากลิ้นร้อนไปทั่ว มือบางชักแกนกายตนองถี่รัว ร่างบางกัดปากแน่น
“ชะ....ชี....วอน อ๊า” ร่างบางเกร็งร่างกายสะท้าน ปลดปล่อยอารมณ์รักอย่างห้ามไม่ได้ ชีวอนแอ่นสะโพกขึ้นรับถี่ๆ บวกกับแรงกดที่กดร่างบางลงมาอย่างแรง ชายหนุ่มกดร่างบางเอาไว้แน่น แล้วเกร็งร่างกายสะท้าน ปลดปล่อยห้วงอารมณ์สวาทออกมาจนหมดสิ้น ฮีชอลหายใจระริน รู้สึกได้ถึงความอุ่นที่ช่องทางตนเอง
“ชอลลี่ครับ...ล้างตัวนะ” ชายหนุ่มอุ้มร่างบางขึ้นมาจากอ่างน้ำ แล้วค่อยๆวางร่างบางลงบนพื้น แต่ทว่าคนสวยกลับทำท่าว่าจะทรุดลงที่พื้น ชีวอนจึงต้องกอดรัดคนสวยเอาไว้แนบแน่น
“แค่นี้ถึงกับทรุดเลยหรอครับ เดี๋ยวทีหลังผมเป็นคนซอยเองดีกว่าเนอะ คุณขย่มแค่ไม่นานเองนะเนี่ยขายังอ่อนแบบนี้ ต้องฝึกทักษะอีกเยอะเลยนะครับคนสวย” ชีวอนแกล้งแซวคนสวยเล่น แต่ทว่าตอนนี้ฮีชอลไม่แม้แต่จะตวัดสายตาขึ้นมามอง คนสวยเอาแต่เกาะเกี่ยวร่างหนาเอาไว้แนบกาย
“ผมล้อเล่นนะ คุณทำให้ผมมีความสุขมากๆเลยครับชอลลี่...”
“ฉันชื่อ ฮีชอล...เรียกฉันว่าฮีชอล!! ร่างบางซบหน้ากับอกแกร่ง แล้วเอ่ยพูดขึ้นมาเสียงไม่ดังมากนัก ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจที่คนสวยยอมบอกชื่อจริงของตนเองแบบนี้ แสดงว่าตอนนี้ฮีชอลนั้นยอมไว้ใจ ยอมยกใจให้ตนเองหมดแล้วสินะ
“ชื่อน่ารักจังเลยครับ ฮีชอล ชเว ฮีชอล...เข้ากันมากเลย” ชายหนุ่มจุมพิตที่หน้าผากของร่างบางอย่างอ่อนโยน รู้สึกดีจนไม่รู้ว่าจะอธิบายมันออกมายังไง รู้แค่ว่ามีความสุขแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆก็ตามที
“แต่ชื่อชอลลี่ก็น่ารักนะครับ ผมรักทุกอย่างที่เป็นคุณนะครับ...ฮีชอล” ชายหนุ่มค่อยๆล้างคราบฟองและคราบกามกิจให้กับร่างบางอย่างอ่อนโยน ฮีชอลระบายรอยยิ้มน้อยๆบนใบหน้า แต่ทว่าก็ไม่ได้ให้ชีวอนเห็น ร่างบางรู้สึกได้ถึงอะไรที่มากกว่าความใคร่ มั่นใจว่ามันน่าจะเป็นความรัก ชีวอนกวนประสาทก็จริง แต่สิ่งที่ชายหนุ่มแสดงออกมานั้น มันเต็มไปด้วยความจริงใจ จนฮีชอลรู้สึกได้ถึงมัน
“ชีวอน...ฉัน...รัก...นาย” ร่างบางบอกอย่างเก้อๆ ชีวอนยิ้มกริ่มแล้วกอดรัดคนสวยแน่นๆ
“ผมชอบเวลาที่คุณพูดคำว่ารัก คำว่ารักของคุณมันมีค่ามากเลยนะครับฮีชอล” ชายหนุ่มค่อยๆบรรจงเช็ดหยาดน้ำจากเส้นผมของร่างบาง แล้วจัดการเช็ดตัวให้กับฮีชอลอย่างเบามือที่สุด ห่อหุ้มร่างกายคนสวยด้วยผ้า แล้วช้อนร่างบางเดินออกมายังเตียงนอนนุ่ม
“ผมยังไม่อยากกลับเลย ผมอยากอยู่กับคุณต่อจัง แต่ผมมีงานต้องไปสะสาง คืนนี้ผมจะได้มาหาคุณอีก” ชีวอนมองดูคนสวยที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียง ใบหน้าหวานดูอ่อนล้า มือหนานาบลงบนแก้มนุ่มแผ่วเบา
“นายไปเถอะ ฉันจะได้นอนพัก แล้วคืนนี้เราค่อยมาเจอกันนะ” ฮีชอลยิ้มน้อยๆ เป็นรอยยิ้มที่กินใจชีวอนเหลือเกิน เป็นรอยยิ้มที่ดูจริงใจและไร้เดียงสาที่สุด
ความจริงแล้วสิ่งที่ทุกคนมองเห็นนั้น มันก็แค่เปลือกนอกที่ร่างบางนั้นเลือกที่จะเอามาใช้ป้องกันตนเองเท่านั้น ฮีชอลใช้มันปกปิดตัวตนที่แท้จริงเอาไว้ เพราะว่าอาชีพของร่างบางนั้น ต้องเจอกับผู้คนมากหน้าหลายตา ถ้าไม่สร้างกำแพงขึ้นมาป้องกันตนเองเอาไว้ อาจจะทำให้อ่อนแอกว่าที่ควรจะเป็น
แต่ทว่าตอนนี้ ตนเองสามารถทลายกำแพงและทุกสิ่งทุกอย่างที่ร่างบางนั้นเลือกเอามาใช้ปิดกั้นตนเอง เนื้อแท้ของฮีชอลนั้นไม่ได้ต่างจากเด็กน้อยที่แสนเอาแต่ใจเลยซักนิด
จริงๆแล้วฮีชอลน่ารักกว่าที่ใครคิด
“แต่งตัวนะครับคนสวย อย่านอนแก้ผ้าแบบนี้ ผมเห็นแล้วอยากขย่มคุณนะ รีบๆแต่งตัวเลยครับ” ชีวอนแกล้งมองคนสวยด้วยสายตาโลมเลีย ฮีชอลตวัดสายตามามองอย่างเชือดเฉือน ก่อนที่จะดึงผ้ามาห่อหุ้มร่างกายเอาไว้มิดชิด
“เดี๋ยวฉันจัดการเองนั่นแหล่ะ นายไปได้แล้วหล่ะ เดี๋ยวอีทึกมาวุ่นวายกับฉันอีก ฉันขี้เกียจจะรบด้วย” ร่างบางนอนหลับตานิ่ง ได้ยินเสียงชายหนุ่มนั้นเดินเข้ามาใกล้ ฮีชอลลืมตาขึ้นมองก็เห็นว่าชีวอนกำลังจัดการห่มผ้าให้ตนเอง สายตาของชายหนุ่มนั้นมันทำให้เกิดความรู้สึกเก้อเขิน ร่างบางกัดปากน้อยๆ มองดูการกระทำของชีวอนอย่างเต็มตื้นในหัวใจ
“นอนพักผ่อนนะครับ ขอโทษที่ทำให้คุณเหนื่อยแบบนี้ แต่ผมมีความสุขนะที่ได้รักกับคุณแบบนั้น...ผมรักคุณนะฮีชอล” ชีวอนก้มลงจุมพิตที่ปากอิ่มเบาๆ ไม่ได้รุกล้ำใดๆ ฮีชอลรู้สึกวาบหวิวไปทั้งหัวใจ
“อื้อ!! รู้แล้วว่ารัก คงจะรักมากด้วยใช่มั๊ย ถึงได้กระแทกใส่ฉันซะถี่แบบนั้น...กลับไปได้แล้ว” คนสวยตวัดผ้าขึ้นคลุมตนเองทั้งร่าง ไม่อยากจะมาต่อล้อต่อเถียงอะไรกับชีวอนเท่าไหร่นัก เพราะว่าตนเองมีแต่จะเสียเปรียบ
“ใช่ครับ ยิ่งรักมากเท่าไหร่ก็ยิ่งใส่แรงมากเท่านั้น ผมว่าผมไปดีกว่า ก่อนที่จะอดใจไม่ไหว แล้วจัดหนักกับคุณอีกซักรอบสองรอบ งานนี้คุณเดี้ยงแน่นอนเลยครับ” ชีวอนก้มลงจุมพิตที่หน้าผากของฮีชอลอีกครั้ง แล้วส่งยิ้มละมุนละไมให้ ร่างบางยิ้มรับเล็กน้อยแล้วหลับตาลงด้วยความอ่อนล้า
“รักคุณนะครับ ฮีชอล” ชีวอนเดินออกไปแล้ว ทิ้งให้คนบนเตียงนอนอมยิ้มอยู่คนเดียว
“ฉันก็รักนาย ไอ้ผู้ชายเจ้าเล่ห์” ฮีชอลบ่นพึมพำคนเดียวเบาๆ แล้วก็ดึงผ้าห่มมาห่อร่างกาย ก่อนที่จะค่อยๆหลับใหลไปอีกครั้ง เตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับค่ำคืนสุดหฤหรรษ์ที่กำลังจะเวียนวนกลับมาอีกหนในเวลาไม่นานนี้

รัติกาลเวียนวนกลับมาอีกครั้ง ร่างบางยืนมองดูท้องฟ้ายามราตรีอยู่ที่หน้าต่าง มองดูภาพเบื้องหน้าด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ตนเองอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว มองเห็นภาพแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาอยู่ทุกคืนทุกวัน มันกลายเป็นความชินชาไปแล้ว
“ชีวิตฉันจะต้องอยู่ที่นี่ไปอีกนานแค่ไหนกันนะ ตอนนี้ฉันมีคนที่ฉันอยากจะใช้ชีวิตด้วยแล้ว ฉันจะอดทนทำงานที่นี่ได้อีกนานแค่ไหน”ร่างบางเอนกายพิงหน้าต่าง นึกถึงคำพูดของชีวอนที่ชวนให้ไปอยู่ด้วยกัน แต่ก็นึกถึงสิ่งที่อีทึกนั้นทำให้ตนเอง ก็ไม่สามารถที่จะเห็นแก่ตัวทิ้งไปได้ ทั้งๆที่ใจอยากจะไปจากที่นี่แล้วก็ตามที
“เพราะว่าฉันมีคนที่ฉันอยากจะรักแล้ว ฉันเลยไม่สามารถข่มใจทำงานแบบนี้ได้อีก ฉันควรจะทำยังไงดี” ร่างบางทอดสายตาออกไปยังเบื้องหน้า ท้องนภายามค่ำคืนแต่งแต้มไปด้วยดวงดาวมากมาย
“ดาวบนท้องฟ้ายังมีวันหมดอายุขัยไปตามเวลา แล้วฉันที่เป็นดาวเด่นของแพลตตินั่ม ก็ย่อมมีวันหมดความนิยมชมชอบเป็นธรรมดา นายน่าจะหาดาวดวงใหม่ชุดต่อไปมาแทนที่พวกฉันได้แล้วนะ...อีทึก” ร่างบางถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วละสายตาจากท้องฟ้ากว้างหันกลับมามองคนที่ยืนช้อนอยู่ด้านหลังตนเอง เดี๋ยวนี้ไม่ต้องไปเปิดประตูให้ ชีวอนก็เดินเข้ามาเองได้เลย
มันเป็นสิทธิพิเศษสำหรับคนที่พิเศษเท่านั้น!!
“แต่ว่าดาวดวงนี้ไม่มีทางหมดอายุขัยไปจากใจผมนะครับฮีชอล” ชีวอนกอดคนสวยเอาไว้แนบกาย จมูกโด่งจรดลงบนซีกแก้มนุ่ม ไล้ไปมาเบาๆทำเอาคนสวยอ่อนระทวย
“ให้มันจริงเถอะ ไม่ใช่พูดแค่ปาก แต่ไม่ได้รู้สึกแบบนั้น” ฮีชอลนาบมือลงบนแก้มของชีวอนเบาๆ แล้วเขย่งปลายเท้า มอบจุมพิตแสนหวานให้กับชายหนุ่ม ชีวอนกอดรัดเอวบางเอาไว้แน่น แล้วเอียงคอปรับมุมรับจุมพิตแสนยวนใจของคนสวยตรงหน้า วันนี้คนสวยเริ่มก่อนซะด้วยสิ
“ชีวอน! นายจะสนใจฉันไปนานแค่ไหนกัน” ร่างบางถามออกมาตรงๆ ใบหน้าหวานซุกอยู่ที่อกแกร่ง มือบางกอดที่เอวของร่างหนามั่น ไม่รู้ว่าทำไมต้องหวั่นไหวกับเรื่องแบบนี้ เมื่อก่อนไม่เคยสนใจเลยด้วยซ้ำว่าใครจะรู้สึกยังไงกับตนเอง รู้แค่ว่าใช้ชีวิตให้มันผ่านไปวันๆ โดยการที่ตนเองเป็นคนที่อยู่เหนือคนอื่นๆ อยากทำอะไรก็ทำ อยากได้อะไรก็ต้องได้
แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้ปล่อยให้คนอื่นมามีอิทธิพลกับหัวใจตนเองมากถึงเพียงนี้กันล่ะ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ยอมให้คนอื่นมาสำคัญกับตนเองมากแบบนี้ เมื่อไหร่กันที่เห็นความสำคัญของคนอื่นนอกจากตนเอง...
“นานเท่าที่คุณต้องการ นานเท่าลมหายใจของผม” ชีวอนกระชับอ้อมกอดแนบแน่น แล้วระบายรอยยิ้มบนใบหน้า มือหนาประคองใบหน้าหวานให้เงยสบตากับตนเอง ร่างบางเม้มปากน้อยๆ แล้วจ้องมองสบตากับชายหนุ่มแน่นิ่ง
“ถ้าฉันออกจากที่นี่ไปได้จริงๆ นายต้องดูแลฉันนะ ฉันไม่ชอบความลำบาก” ร่างบางถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วหลับตาลงเล็กน้อยยามที่ชายหนุ่มประกบริมฝีปากลงมา ปากหนานาบทับปากนิ่มเบาๆ แล้วค่อยๆบดเบียดลงไปแนบชิด ขบเม้มกลีบปากอิ่มเบาๆ เค้นคลึงด้วยริมฝีปากหนาแผ่ว ลิ้นร้อนเลียกลีบปากนุ่มเบาๆ แล้วผละออกช้าๆอย่างอ้อยอิ่ง คนสวยกัดปากน้อยๆ แล้วส่งสายตายั่วยวนให้แบบเต็มที่ แค่ถูกสัมผัสแค่นี้ก็ใจเต้นแล้วสิ ร่างบางได้แต่สงสัย ว่าทำไมตนเองถึงได้ยอมใจอ่อนมากถึงเพียงนี้
“อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนี้นะครับ นอกจากว่าคุณจะอยากให้ผมกระแทก” มือหนาลูบหลังบางแผ่วเบา ไล้ลงไปเรื่อยจนถึงก้นนิ่ม บีบมันเบาๆสองสามทีอย่างแกล้งๆ ร่างบางยกมือขึ้นโอบกอดรอบคอชายหนุ่มเอาไว้ ส่งสายตาเชิญชวนแบบไม่ปกปิด รุ่นนี้แล้วจะมัวมาเหนียมอายทำไม เอากันไปตั้งกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง มันหมดไปแล้วล่ะความอายเนี่ย แต่ที่ไม่เคยหมดเลยคือความอยากได้ใคร่ดี
“อยากหรอครับ....เชิญชวนขนาดนี้ไม่สนองผมก็คงตายด้านแล้วล่ะครับ” ชีวอนกอดรัดที่เอวบาง รั้งร่างนุ่มเข้ามากอดแนบร่างกายตนเอง สายตาที่จ้องมองซึ่งกันและกันนั้น มันฟ้องให้รู้ถึงความรู้สึกที่อยู่ลึกในหัวใจ ที่พร้อมจะเปิดเผยทุกเวลาที่อยู่ด้วยกัน
“แล้วนายไม่อยากหรอ” ร่างบางกัดปากน้อยๆ ปรายตามองอย่างยั่วยวน ชีวอนกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วบีบก้นนุ่มของร่างบาง พร้อมกับรั้งร่างกายส่วนล่างของร่างบางเข้ามาปะทะกับส่วนล่างของตนเองถี่ๆ ร่างบางเงยหน้าขึ้นมอง กัดปากน้อยๆ
“อะไร!! แค่จูบก็แข็งแบบนี้แล้วหรอ นายคิดไม่ซื่อกับฉันตลอดเลยใช่มั๊ย” มือบางเกาะที่ไหล่หนา ลูบไล้ลงมาสะกิดที่ยอดอกของชีวอนแรงๆ แล้วลากนิ้วเรียวลงไปจับหมับที่ส่วนป่องนูน ลูบมันเบาๆก่อนที่จะสอดมือเขาไปที่ด้านในกางเกง ชายหนุ่มยิ้มอย่างชอบใจ แล้วค่อยๆสอดมือเข้าไปที่ผิวเนียนนุ่มใต้เสื้อของร่างบาง ลูบวนอยู่ที่หน้าอกของคนสวย สะกิดมันไปมาอย่างชอบใจ
“จัดหนักแต่วันเลยหรอครับ ไม่คุยกันหรอครับคนสวย” ปากก็พูดแบบนั้น มือหนาก็ทำการดึงเสื้อของคนสวยออกแล้วก้มลงโลมเลียยอดอกที่แข็งชันสู้ลิ้นที่กำลังตวัดเลียอย่างหนัก ร่างบางเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย แลบลิ้นเลียปากพอให้ชื้น เวลาที่ชีวอนรัวลิ้นที่หน้าอกตนเอง มือบางก็ขยุ้มผมของชายหนุ่มไปด้วย
“ทำอย่างกับว่านายชอบคุยงั้นแหล่ะ ถ้าอยากคุยก็หยุดแล้วมาคุยกัน” ร่างบางก็พูดไปแบบนั้น เล่นสปาร์คกันซะขนาดนี้แล้ว มันจะหยุดได้ยังไงกันล่ะ
“ไม่คุยดีกว่าครับ เดี๋ยวขย่มกันเสร็จแล้วค่อยคุยก็ได้นี่นา” เลียปากอิ่มเบาๆ แล้วจัดการถอดเสื้อตนเองออกทันที ร่างบางกัดปากหรี่ตามมอง มือบางจัดการถอดเสื้อตนเองออก แล้วมองดูมือหนาที่จัดการดึงกางเกงตนเองลงไปกองที่พื้น ขาเรียวสะบัดกางเกงที่ข้อเท้าตนเองออก แล้วจัดการถอดกางเกงของชีวอนออกบ้าง
“เอาเสร็จรอบนี้นี่ไปถอยรถให้ฉันซักคันสิ...” ร่างบางแกล้งพูดต่อรองกับชายหนุ่ม ใจจริงไม่ได้ต้องการอะไรเลย เท่าที่มีอยู่ก็ใช้ไม่รู้จักครบแล้วล่ะ
“เสร็จครั้งนึงขอหนึ่งคันหรอครับ งั้นคืนนี้ผมว่าคงจะได้ออกรถให้คุณไม่ต่ำกว่าสี่คัน อาจจะห้า หรือว่าหกดีนะ” ชายหนุ่มโลมเลียร่างบางด้วยสายตา แล้วอุ้มคนสวยให้เดินไปที่โซฟากลางห้องนั่งเล่น
ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะลืมไปนะว่าที่ห้องนี้มันมีกล้องวงจรปิด!!
ชีวอนทิ้งตัวลงนั่ง แล้วให้คนสวยนั้นนั่งตักตนเอง ร่างบางหันหน้าเข้าหาร่างหนา แล้วเอื้อมมือไปกอดรอบคอชายหนุ่ม จ้องหน้าสบตากับชีวอนสื่อความต้องการในใจ
ใบหน้าหวานระบายยิ้มพิมพ์ใจแล้วยื่นหน้าเข้าใกล้ชีวอนจนหน้าผากแตะกัน ลิ้นเล็กๆยื่นออกมาเลียริมฝีปากหนาเบาๆ ชายหนุ่มอ้าปากแล้วงับลิ้นเล็กๆเป็นการสั่งสอน คนสวยแอนกายเข้าหาร่างหนา นั่งทับส่วนล่างของชีวอนที่ดันส่วนล่างของตนเองอยู่แบบนั้น บดเบียดร่างกายลงไป ถูๆไถๆให้ได้อารมณ์ แล้วใช้ลิ้นเกี่ยวพันกับลิ้นของชีวอนอยู่เนิ่นนาน
“ขอเลยเถอะครับฮีชอล ผมไม่อยากจะทนแล้วนะครับ รุ่นนี้ไม่ต้องเร้าแล้วครับ เอาเลยเถอะที่รัก ผมอยาก” ชีวอนเอ่ยปากขอเสียงสั่น คนสวยเล่นบดสะโพกลงมาแบบนั้น ก็ไอ้นั่นมันยังไม่เข้าไปในตัวคนสวยเลยนี่นา มันพองซะจนไม่รู้ว่าจะพองยังไงแล้ว
“ขย่มผมทีสิครบ นะฮีชอล ผมอยากให้คุณทำจัง” ชีวอนส่งสายตาออดอ้อนไปให้ร่างบางกัดปากน้อยๆ แล้วยกร่างกายขึ้น จัดการกุมแกนกายของชายหนุ่มเอาไว้ แล้วค่อยๆกดร่างกายลงมา ร่างบางกัดปากแน่น ยังไงก็ไม่ชิน ราวกับว่าของชีวอนนั้นมันขยายขึ้นทุกครั้งที่ทำกัน มันก็ยังคงเจ็บแปลบก่อนที่จะสุขสม
“อื้อ...เจ็บมาก ของนายมันใหญ่ขึ้นรึเปล่า” ร่างบางเกาะไหล่หนาแน่น ค่อยๆกดร่างกายลงไป กัดปากครางอือในลำคอ กว่าที่จะปรับตัวได้ก็คงจะอีกซักพัก ตอนนี้รู้สึกจุกแน่น เสียวซ่านและเจ็บแปลบไปทั้งร่างกาย
อยากจะเลิกแต่ก็ยากที่จะตัดใจเลิก มันติดแล้วเลิกยาก มันยากที่จะถอนตัวขึ้นมาจากเซ็กส์ที่แสนจะร้อนแรงของชีวอน
“คุณฟิตเองต่างหาก โดนมาตั้งกี่ครั้งนับไม่ถ้วน ยังฟิตได้ขนาดนี้ อืม...ผมจะคลั่ง” ชีวอนยกตัวขึ้นกระแทกร่างบางเบาๆ เนิบนาบกันทั้งสองฝ่าย ก่อนที่จะเริ่มขย่มกันแบบรุนแรงอย่างที่เจ้าตัวชอบทำ ทำกันทีเสียงเนื้อกระทบกันดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วห้อง
“อ๊า.....ชีวอน อย่ากระแทกแรง มันเจ็บ” ร่างบางตีไหล่หนาดังฉาด ก่อนที่จะจิกไหล่ของชายหนุ่มเอาไว้อีกครั้ง ออกแรงขย่มร่างกายถี่ขึ้น กดร่างกายลงมารับกับแรงสวนขึ้นมาของชายหนุ่ม
“ถ้าเนิบนาบอยู่แบบนี้ มันก็จะเจ็บอยู่แบบนี้ สู้ออกแรงขย่มกันแรงๆ กระแทกกันหนักๆ เอาไห้แตกกันไปข้างเลยดีกว่ามั๊ยครับ” ชีวอนสวนร่างกายขึ้นมาหาร่างบาง จับสะโพกมนแน่น ทั้งสองคนจ้องมองตาซึ่งกันและกัน ก่อนที่จะโผเข้าฟัดกันนัวเนีย ปากประกบปาก ลิ้นแลกลิ้นพัลวัน
เสียงครางอื้ออึงในลำคอ เสียงเนื้อกระทบกันเริ่มดังถี่รัว ร่างบางขย่มตัวขึ้นลงถี่ ร่างหนาโลมเลียผิวกายขาวผ่องจนรอยรักผุดขึ้นมานับไม่ถ้วน
“อ๊ะ.....สุดยอด” ชายหนุ่มครางกระเส่า ยกตัวขึ้นรับแรงกดของคนสวยถี่รัว มือหนาดึงร่างบางเข้ามากอดแนบแน่น ยอดอกของคนทั้งคู่ถูกันไปมา เพิ่มความเสียวซ่านขึ้นมาอีกระดับ
“ชีวอนอ่า สุดยอดจริงๆ” ร่างบางเกาะไหล่ร่างหนาเอาไว้ อีกมือหนึ่งเอื้อมลงไปรูดรั้งแกนกายตนเองถี่รัว อยากจะเสร็จให้มันพร้อมๆกับชีวอน มันให้ความรู้สึกที่ดีมากๆ กับการที่ได้ปลดปล่อยอารมณ์รักพร้อมกับคนที่เราร่วมเซ็กส์ด้วยแบบนี้
“ฮีชอล สวยจังเวลาทำหน้าเสียวซ่านแบบนี้ เห็นแล้วแทบไม่อยากหยุดกระแทกเลยครับ” ใส่แรงไปตามอารมณ์ คนสวยยิ้มยั่วอย่างเจ้าเล่ห์ ยิ่งเห็นแบบนั้นชีวอนยิ่งอาการหนัก อยากจะจัดกับคนสวยแบบไม่มีเบรก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะใกล้เวลาสำคัญแล้ว ก็คนสวยเล่นจัดเต็มให้ขนาดนี้ ปกติคนสวยออกจะเล่นตัว ไม่ทำให้ต้องให้ตนเองคุมเกมตลอด
“ไม่อยากหยุด ก็ไม่ต้องหยุดสิ...” กดร่างกายขย่มลงถี่ๆ เกาะไหล่หนาแน่น เร่งจังหวะรูดรั้งแกนกายตนเองอย่างหนัก
“อ๊า....ชีวอนอ่า ทรมานจังเลย มันจะไปแล้วนะ” ร่างบางเริ่มเกร็งร่างกาย ชีวอนเห็นอย่างนั้น ชายหนุ่มสวนร่างกายขึ้นมาใส่ร่างบางหนักๆชุดใหญ่ ก่อนที่จะกดร่างคนสวยแช่เอาไว้ไม่ให้ขยับ น้ำรักอุ่นสีขาวขุ่นไหลรินเต็มช่องทางของร่างบาง และเต็มหน้าท้องแกร่งของร่างหนา
“ถ้าจะเสียวขนาดนี้ ผมขออีกซักทีได้มั๊ยครับที่รัก” ชีวอนกระซิบถามคนที่นั่งซบอยู่ที่อกตนเองเสียงเจ้าเล่ห์ ฮีชอลไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ยอมให้ชีวอนนั้นยกตนเองออกจากตัก แล้วอุ้มเข้าไปต่อที่ในห้องนอน
“ยกนี้ผมขอคุมเองนะคนสวย ผมจะทำให้คุณรู้ว่าซอยถี่ๆ ซอยดีๆ ซอยแบบไหนที่จะซี๊ด จี๊ด และแซ่บที่สุด” ชีวอนค่อยๆวางร่างบางลงบนเตียง แล้วขึ้นไปด้านบนเตียงนอนของคนสวย ที่รู้สึกว่าจะทำการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนมันซะทุกวันเลยช่วงนี้
“ผมอยากทำท่านี้จัง...69” ว่าแล้วชีวอนก็สลับทิศทางนอนตะแครงเข้าหาร่างบางอยู่ในท่าหกเก้า ต่างฝ่ายทางตะแครงหันหน้าเข้าหากัน ต่างฝ่ายต่างจ้องมองแกนกายของอีกฝ่ายที่อยู่ตรงหน้าตนเอง ชีวอนยื่นลิ้นไปเลียน้อยๆ ก่อนที่จะเริ่มต้นจัดหนัก ร่างบางกอบกุมแกนกายของชีวอนแล้วขยับมันไปมา ก่อนที่จะค่อยๆแตะลิ้นลงไปยังส่วนปราย ลากไล้มันลงไปจนสุด แล้วค่อยๆลากมันกลับขึ้นมา ก่อนที่จะอมเข้าไปแล้วดูดดุนเบาๆ
“อื้ม!!” ทั้งสองคนเริ่มต้นสร้างความสุขให้อีกฝ่ายทันที ต่างฝ่ายต่างเต็มที่กับเซ็กส์ที่ต่างฝ่ายต่างตั้งใจมอบให้แก่กัน
ร่างสองร่างยังคงมัวเมากับสิ่งที่ตนเองกำลังกระทำ แต่ทว่าร่างของใครอีกคนหนึ่งนั้น กำลังร้อนรุ่มในทรวงกับภาพที่เห็นทางหน้าจอ ภาพที่ส่งตรงมาจากห้องของฮีชอล
อีทึกยืนเกร็งร่างกาย เกิดความรู้สึกร้อนรุ่มแปลกๆตั้งแต่ที่ได้เห็นหนังสดที่แสนจะร้อนแรงมาจากห้องของฮีชอล อีทึกพุดไม่ออก สิ่งที่รู้สึกได้มากที่สุดในตอนนี้ คือบางสิ่งบางอย่างที่ตนเองพยายามหนีมาตลอด แต่ทว่าทำไมพอได้เห็นสิ่งที่ชีวอนกับฮีชอลทำกันนั้น ตนเองกลับรู้สึกนึกถึงใครบางคนขึ้นมาแบบทันที
“คะ....คังอิน.....อะ....อื้อออ”

+++++++++++++++++++++++++


กลับไปอ่านต่อที่นี่จ้า ^^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น